เพชรบูรณ์ผวา "ผีแม่ม่าย" อาละวาด 3 เดือนตายแล้ว 40 ศพ ทำชาวบ้านหวาดผวา ต้องนำเสื้อแดงมาแขวนไว้หน้าบ้าน ตามความเชื่อ ผญบ.ต้องเข้าหารือพระ พร้อมแนะทำบุญใหญ่ พร้อมให้ลูกบ้านมาสวดมนต์ที่วัดเพื่อช่วยส่งวิญญาณร้ายออกไป
เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.63 จากกรณีเหตุการณ์แปลกประหลาด ชาวบ้านหมู่ 3 บ้านซับเปิบ ตำบลซับเปิบ อำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ ต่างกำลังหวาดผวาผีแม่ม่าย อาละวาด หลังมีเหตุการณ์ลึกลับ คนในหมู่บ้าน ตายติดต่อกันกว่า 17 รายแล้ว ภายในช่วงระยะเวลาเพียงแค่ 2 เดือน จึงได้พากันนำเสื้อสีแดง มาแขวนไว้ที่ต้นไม้หน้าบ้าน เพื่อเป็นการแก้เคล็ดตามความเชื่อโบราณ
ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่หาคำตอบ และพูดคุยกับชาวบ้านที่หมู่บ้านดังกล่าว ซึ่งยังคงพบว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างแก้เคล็ดด้วยการนำเสื้อสีแดงพร้อมเขียนข้อความ "บ้านนี้ไม่มีคนอยู่ มีแต่หมากับแมว" มาแขวนไว้หน้าบ้านและตามต้นไม้ เพื่อเป็นการแก้เคล็ดตามความเชื่อโบราณ และต่างพากันหวาดกลัวในเรื่องความอาถรรพณ์ ของผีแม่ม่าย โดยเฉพาะข้อมูลการตายล่าสุดของคนในหมู่บ้าน พบว่าในระยะเวลา 3-4 เดือนที่ผ่านมา มีคนทยอยตายไปแล้วกว่า 40 คน และเหตุการณ์ยิ่งทำให้ดูลึกลับเข้าไปอีก เมื่อลักษณะการตายส่วนใหญ่ มักจะเกิดการตายต่อๆ กัน เผาเสร็จก็ตาย โดย ณ ปัจจุบันตอนนี้ ก็มีคนตายรอเผาอยู่ถึง 2 ศพแล้ว ซึ่งทางผู้ใหญ่บ้าน ได้เตรียมปรึกษาหารือกับทางพระอาจารย์ ว่าต้องมีการทำบุญบ้าน และทำบุญใหญ่ปีละครั้ง แล้วก็ให้ลูกบ้านมาสวดมนต์ที่วัดประจำ อาทิตย์ละครั้ง หรือเดือนละ 4 ครั้ง เพื่อช่วยส่งวิญญาณร้ายออกไป
...
นายถนอม เบิกสว่าง ผู้ใหญ่หมู่ 3 ตำบลซับเปิบ อำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า บ้านซับเปิบ มีอยู่ด้วยกัน 3 หมู่ คือ หมู่ 3 หมู่ 6 และ หมู่ 8 ที่ผ่านมา ชาวบ้านเห็นว่า มีคนเสียชีวิตกันบ่อย แต่ละเดือน ตั้งแต่ช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา คนตายประมาณ 40 คนแล้ว ชาวบ้านเลยนำผ้าแดงหรือเสื้อแดง มาแขวนหน้าบ้านแก้เคล็ด ไม่ให้ผีแม่ม่ายมาเอาชีวิตคนในบ้าน พร้อมเขียนข้อความ "บ้านนี้ไม่มีคนอยู่ มีแต่หมากับแมว" ซึ่งโดยส่วนตัวผู้ใหญ่บ้าน มองว่าผ้าแดง ไม่น่าช่วยอะไร แต่เชื่อว่า สิ่งเร้นลับนั้นมีอยู่จริง เพราะเคยมีคนมาดูที่วัด เขาเห็นวิญญาณร้ายมีเยอะมาก แล้วที่บอกว่าเป็นผีแม่ม่าย ก็ไม่สามารถยืนยันได้ เพราะคนที่ตายก็มีทั้งชายและหญิง รวมแล้ว 3-4 เดือน มากกว่า 40 คน
โดยสาเหตุการตาย บางครั้งอยู่ดีๆ ก็ตายไปเลย เช่น มีรายหนึ่ง ขึ้นมุงหลังคาวัดอยู่ดีๆ ลงมาก็ตาย บางคนก็ไปแห่บุญกฐินอยู่ดีๆ ก็น็อกเข้าโรงพยาบาลเสียชีวิต บางคนอยู่ดีๆ ก็ล้มไม่ฟื้น จึงไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไรกันแน่ ซึ่งแนวทางต่อจากนี้ หลังจากได้ปรึกษากับทางพระอาจารย์แล้วว่า ต้องมีการทำบุญบ้าน ทำบุญใหญ่ปีละครั้ง แล้วก็ให้ลูกบ้านมาสวดมนต์ที่วัดประจำ อาทิตย์ละครั้ง หรือเดือนละ 4 ครั้ง เพื่อส่งวิญญาณร้ายออกไป
ผู้ใหญ่หมู่ 3 กล่าวต่ออีกว่า ณ ปัจจุบันตอนนี้ ล่าสุดก็มีคนตายอยู่ 2 ศพ ยังไม่ได้เผา โดยลักษณะการตายส่วนใหญ่ มักจะเกิดการตายต่อๆ กัน เผาเสร็จก็ตาย โดยเฉพาะเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีการตายติดต่อกันเยอะมาก จนทำให้ชาวบ้านรู้สึกหวาดผวา เลยต้องหาแนวทางแก้เคล็ด ด้วยการนำเสื้อสีแดงมาแขวนหน้าบ้าน ซึ่งผู้ที่เสียชีวิตส่วนใหญ่ มักเป็นผู้ชาย มีทั้งวัยรุ่น และผู้มีอายุ บางศพก็เอาไว้บ้าน บางศพก็นำมาไว้ที่วัด
ขณะที่ นางบุตรดี สารมะโน อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94 หมู่ 3 ต.ซับเปิบ หนึ่งในชาวบ้านที่ญาตินอนป่วยรักษาตัว เผยว่า น้องชายอาการไม่ดีขึ้น ทรุดลง ส่วนความเชื่อด้านผีแม่ม่ายก็ไม่ออกความเห็น และไม่เชื่อว่าเกิดจากผีแม่ม่าย แต่เป็นเพราะโรคเขาเอง จากร่างกายปกติ ก็เกิดวูบไป โดยส่วนตัวไม่เชื่อเรื่องผีแม่ม่าย แต่ที่แขวนเสื้อสีแดงเอาไว้ที่หน้าบ้าน ก็ทำให้เหมือนกับชาวบ้านเขาไป
ด้านพระอาจารย์จิรวัฒน์ ฐานโย เจ้าอาวาสวัดเทพนิมิตคีรีวงษ์ กล่าวว่า ส่วนตัวอาตมามองว่า ที่ชาวบ้านพากันนำเสื้อสีแดงมาแขวนไว้หน้าบ้าน ถือว่าเป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล ที่ญาติโยมมีศรัทธาเชื่อมั่นในสิ่งนี้ ที่จะแก้เคล็ดได้ ถือเป็นขวัญกำลังใจ แต่ส่วนตัวของอาตมา ก็หมั่นปฏิบัติธรรม ไหว้พระ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ให้รักษาคุ้มครอง ส่วนแนวทางแก้ไขต่อจากนี้ เนื่องจากตัวอาตมาเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งช่วงเข้าพรรษา จึงยังไม่รู้ว่า ช่วง 2-3 ปีที่แล้ว ไม่รู้ว่ายังทำกันอยู่หรือเปล่า แต่ตัวของอาตมา จะประคับประคองในบวรศาสนา เชื่อในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ที่ว่ามีจริง ปฏิบัติได้จริง ถ้าคนไหน ที่ปฏิบัติอยู่ในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เอาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่ง ที่ยึดเหนี่ยว บุคคลคนนั้น ญาติโยมคนนั้น ก็จะอยู่ร่มเย็นเป็นสุข นอกจากนี้ ในช่วงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่น 8 ค่ำ 15 ค่ำ วันเข้าพรรษา วันออกพรรษา ก็จะมีการทำพิธีสะเดาะเคราะห์ ต่อดวงชะตา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ญาติโยม.