ตำรวจทางหลวง เข้าแจ้งความนำไปสู่การออกหมายจับ เจ้าของร้านอัลลอยที่เชียงราย ถูกออกใบสั่งทำผิดพ.ร.บ.ทางหลวง และพ.ร.บ.จราจร 96 ครั้ง แต่ไม่ไปพบเจ้าหน้าที่ ไม่เคยเสียค่าปรับเลยสักครั้ง ชี้เป็นการไม่เคารพยำเกรงกฎหมาย ไม่รับผิดชอบต่อสังคม
เวลา 09.30 น. วันที่ 19 ธ.ค. 63 พ.ต.ท.ดร.เจต จึงประเสริฐศรี สว. ส.ทล.5 กก.5 ประสานตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย นำหมายจับของศาลแขวงเชียงราย ที่ 149/2563 ลงวันที่ 2 ธ.ค. 63 เข้าจับกุมตัว นายภิญโญ อารีโกเศศ อายุ 61 ปี เจ้าของร้านเชียงรายอัลลอยสเตนเลส อยู่บ้านเลขที่ 139/1 ถ.พหลโยธิน หมู่ 12 ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย ข้อหากระทำผิดตาม พ.ร.บ.ทางหลวง และ พ.ร.บ.จราจร ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรสีแดง ขับรถเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ฝ่าฝืนป้ายจำกัดความเร็วที่ออกตามกฎกระทรวง ฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจร พื้นที่ จ.เชียงราย และ จ.พะเยา ของรถยนต์ 3 คัน จำนวน 96 ครั้ง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ส.ทล.5 กก.5 บก.ทล. ได้ออกใบสั่งไปรวม 96 ครั้ง แต่นายภิญโญ ได้เพิกเฉยไม่เคยไปชำระค่าปรับแม้แต่ครั้งเดียว ส.ทล.5 กก.5 จึงนำหลักฐานเข้าแจ้งความต่อพ.ต.ท.นเรศ โปเล็ม พงส.สภ.เมืองเชียงราย แต่หลังจากออกหมายเรียกให้มาพบตำรวจ นายภิญโญได้เพิกเฉยอีก จึงนำไปสู่การออกหมายจับ มาสอบสวนส่งฟ้องศาลแขวงเชียงรายต่อไป
สารวัตร ส.ทล.5 กก.5 บก.ทล. เปิดเผยว่า การกระทำความผิดซ้ำแล้วซ้ำอีกของนายภิญโญ เป็นการไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมาย ไม่รับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม หากตำรวจทางหลวงไม่ดำเนินการใดๆ จะทำให้กฎหมายไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ ผู้ใช้รถใช้ถนนจะไม่มีระเบียบวินัยในการขับขี่ ซึ่งจะนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุ เมื่อพบผู้กระทำผิดซ้ำซาก ตำรวจทางหลวงจะไม่นิ่งนอนใจ และติดตามมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
"ขอให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเคารพกฎจราจร ขับรถด้วยความมีน้ำใจ ก็จะทำให้ถนนปลอดภัย เมื่อมีผู้กระทำผิด เจ้าหน้าที่ต้องเปลืองกำลังและค่าใช้จ่าย ต้องทำหลายขั้นตอน ตั้งแต่การออกใบสั่ง ตรวจสอบภาพรถที่ทำผิด นำภาพมาลงข้อมูลในระบบ พิมพ์ใบสั่ง ตรวจสอบความผิดพลาดของใบสั่ง พับใส่ซอง หากไม่มีผู้กระทำผิด ตำรวจทางหลวงจะได้นำเวลาที่จะต้องออกใบสั่ง ไปทำอย่างอื่นเพื่อประโยชน์กับประชาชนและสังคม”
...