ผวจ.เชียงราย แถลง พบผู้ติดเชื้อโควิดอีก 8 คน หญิงล้วน มาจากท่าขี้เหล็กทั้งหมด 7 คนเข้าตามช่องทางถูกต้อง ตรวจพบระหว่างกักตัว ส่วนอีก 1 มาช่องทางธรรมชาติ เป็นเพื่อนกับผู้ติดเชื้อที่ราชบุรี ยืนยันคนเชียงรายใช้ชีวิตปกติ ไม่ใช่ซอมบี้
เวลา 11.30 น. วันที่ 8 ธ.ค. 63 ที่ห้องพญาพิภักดิ์ ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นพ.ทศเทพ บุญทอง สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย นพ.ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการศูนย์ โรงพยาบาลเชียงราย ร่วมแถลงสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จังหวัดเชียงราย ประจำวันที่ 8 ธันวาคม 2563 พบผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 8 ราย เป็นเพศหญิงทั้งหมด
โดยมีอายุ 22-35 ปี ที่ทำงานที่สถานบันเทิง ส่วนใหญ่เป็นร้านคาราโอเกะ เมืองท่าขี้เหล็ก ผ่านเข้ามาช่องทางปกติ 7 คน เข้ามาในวันที่ 4 ธ.ค. มีการควบคุมโรค ประสานงานหน่วยงานความมั่นคงชายแดนไทย-เมียนมา (Thai-Myanmar Township Border Committee / TBC) และมี 1 ราย ที่มาทางช่องทางธรรมชาติ ในวันที่ 29 ธ.ค. จากเมื่อวานนี้อยู่ที่ 26 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 34 ราย
นายประจญ กล่าวว่า รายที่พบเชื้อวันที่ 7 ธ.ค. นั้นผู้ป่วย 7 ราย ที่เข้าช่องทางปกติตั้งแต่วันที่ 4 ธ.ค.นั้น อยู่ในพื้นที่ควบคุม Local State Quarantine (LSQ) อยู่แล้ว ตรวจซ้ำพบเชื้อในวันที่ 6 ธ.ค.และมีอยู่ 1 ราย ที่เข้าช่องทางธรรมชาติ หลบรักษาตัวเองอยู่ เมื่อทราบว่าเพื่อนที่เคยข้ามไปเมียนมาและกลับมาด้วยกับผู้ป่วยที่จังหวัดราชบุรีนั้น
ผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวว่า ทางจังหวัดเชียงรายยังมุ่งมั่นตรวจเชิงรุกใน 3 สถานที่ที่บริการ คือ อ.แม่สาย อ.เมือง และที่ไร่สิงห์ปาร์ค โดยมีรถชีวนิรภัยพระราชทาน โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ศรีบุรินทร์ ผู้ที่ประเมินว่าตัวเองมีความเสี่ยงสามารถสามารถไปตรวจได้ฟรี เพื่อความมั่นใจของประชาชนและเพื่อเป็นการป้องกัน ตรวจไปแล้วทั้งหมดตอนนี้ 4,852 คน ผลเป็นลบ 3,543 คน และรอผล 1,309 คน จะเห็นว่ายังไม่มีการติดแบบแพร่กระจาย และยืนยันว่าแม้สิงห์ปาร์คก็ไม่มีใครติดเชื้อ แต่ที่ใช้พื้นที่เพราะเป็นการบริการคนทั่วไปที่มีความต้องการตรวจด้วย และขณะนี้คนไทยที่เข้าใหม่จะเข้ามาทางช่องทางปกติ เข้าสู่พื้นที่ควบคุมการตรวจรักษาทุกราย และผู้ที่ติดเชื้อเกือบทั้งหมดมาจากท่าขี้เหล็ก โดยมาจาก สถานบันเทิง 1G1 23 ราย แบบสัมผัส 1 ราย มาจากฮอลิวูด ไนท์คลับ 2 ราย จากโรงแรมและสถานที่อื่นจำนวน 8 ราย
...
ส่วนที่มีคนที่ลงทะเบียนผ่าน TBC ที่ยังไม่สามารถเข้ามากว่า 30 คนนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายกล่าวว่า เรื่องนี้ มีปัญหาในเรื่องรายละเอียดขั้นตอนการตรวจสอบเอกสารของหน่วยงานฝั่งท่าขี้เหล็ก ซึ่งเป็นเรื่องที่จะนำเสนอฝ่ายนโยบาย วันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมาตรวจเยี่ยม จะนำเสนอเรื่องนี้หารือในประเด็นปัญหาสถานการณ์พิเศษ สามารถที่จะหาทางพูดคุยกับทางการเมียนมาเพื่อให้คนไทยที่ติดค้างและมีความประสงค์กลับมาได้หรือไม่ ขณะเดียวกันทางจังหวัดและสาธารณสุข ก็ไม่ได้ละเลย ได้จัดยาที่จำเป็นไปให้คนไทยที่ติดค้างอยู่ฝั่งท่าขี้เหล็ก
นอกจากนี้ ในวันที่ 10 ธ.ค.นี้ เชียงรายจะจัดบิ๊กคลีนนิ่ง 10 10 12 20 ดีเดย์ โดยทั้งจังหวัดและทุกอำเภอ ทุกหน่วยงานทั้งรัฐและเอกชนห้างร้าน ทำความสะอาดทุกอย่างที่จะมีเชื้อโรคให้ปลอดเชื้อ และจะมีรถชีวนิรภัยมาบริการตรวจฟรีที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย ไม่เป็นเพียงการสร้างความเชื่อมั่น แต่เป็นการให้คนเชียงรายตระหนักและป้องกันตัวเองอย่างเข้มข้น ส่วนเรื่องการตรึงชายแดนป้องกันการลักลอบตลอดชายแดน และขณะนี้รัฐบาลได้ให้อำนาจเต็มกับผวจ.จัดการผู้ที่นำพาการลักลอบได้แล้ว ถ้าใครมีเบาะแสให้แจ้งได้
"ถามว่า คนเชียงรายเป็นซอมบี้เหรอ พวกเรายังสบายดี ยังดำเนินชีวิตปกติ เป็นเรื่องความตื่นตระหนก กังวล มีคลิปออกมามากมาย คำชะโนด มีป้ายไม่ต้อนรับ แบบนี้ไม่ไหว มีข่าวลือมากมาย” นายประจญกล่าว
ด้านนพ.ทศเทพ กล่าวว่า ผู้ป่วยทั้ง 26 ราย ที่ผ่านมามีไทม์ไลน์ 6 คน และวันนี้เพิ่มอีก 1 คน ที่เข้าช่องทางธรรมชาติ มาในวันที่ 29 ธ.ค.เป็นเพื่อนกับผู้ป่วยที่จังหวัดราชบุรี เข้ามาแล้วแฟนไปรับ จากนั้นไปส่งเพื่อนขึ้นเครื่องไป กทม. ในตอนเช้ามีไทม์ไลน์คือในวันที่ 29 ธ.ค.ไปส่งเพื่อนที่สนามบินแม่ฟ้าหลวง โดยไม่ได้ลงจากรถยนต์และไปเที่ยวที่สิงห์ปาร์คในตอนเย็น กลับประมาณเที่ยงคืนและกลับแม่สาย โดยวันที่ 1-2 ธ.ค.อยู่บ้านเก็บตัวไม่ไปไหน และเริ่มป่วยไปตรวจที่ รพ. เอกชนวันที่ 3 ธ.ค. เพื่อเก็บตัวอย่างส่ง วันที่ 5 ธ.ค.ไปตรวจอีกครั้ง และวันที่ 6 พบว่าติดเชื้อโควิด-19 รพ.แม่สายมารับตัวไปส่ง รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์แล้ว การตรวจพบผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 8 คน และสัมผัสเสี่ยงต่ำ 88 คน พบ 2 คนที่เป็นลบคือ แฟน กับเพื่อนอีก 1 คน ตอนนี้รอการตรวจซ้ำ ผู้ที่ใกล้ชิดทั้งหมด อยู่ใน LQ แล้ว
นพ.ไชยเวช กล่าวว่า ผู้ป่วยที่รับการรักษาส่วนใหญ่อาการไม่หนัก ทั้ง 26 คนก่อนหน้านี้ บางคนมีอาการปกติแล้ว และส่วนใหญ่มีอาการเล็กน้อย มีรายหนึ่งจมูกไม่ได้กลิ่น แต่ก็ถือว่าไม่ใช่อาการหนัก และผู้ป่วยรายแรกที่ครบขั้นตอนการรักษาแล้วในคืนนี้ ถือว่าปลอดเชื้อ จะสามารถกลับบ้านได้ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งทาง รพ.ก็จะให้กลับและติดตามดูแล ในช่วงแรกสามารถใช้ชีวิตปกติ เพราะไม่มีเชื้อในตัวแล้ว แต่ก็จะให้กักตัว 14 วัน เพื่อความสบายใจของสังคม