2 ผัวเมีย เที่ยวงานวัดคืนลอยกระทง ซิ่ง จยย.กลับบ้าน แหกโค้งชนต้นไม้ข้างทาง ผัวเจ็บสาหัส เมียดับคาที่ พร้อมลูกในท้องครรภ์เพียง 6 เดือน พ่อแม่เผยลางสังหรณ์ก่อนลูกสาวไปตาย ด้านครอบครัวนิมนต์พระสยบเฮี้ยน ตามความเชื่อตายทั้งกลม
เมื่อวันที่ 6 พ.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า "Non Nattawut" โพสต์ข้อความระบุว่า "ขออนุญาตเพื่อนพี่น้อง น.ส.วรนุช มามี (ส้ม) ได้เกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์แหกโค้งเสียชีวิต พ.ร.บ.รถไม่มี ตอนนี้ต้องการเงินค่าทำศพ เนื่องจากทางบ้านไม่ค่อยมี เผาวันเสาร์ครับ ขอความช่วยเหลือน้องสาวผมหน่อยครับ ใครที่จะบริจาคเงินติดต่อผมมาได้เลย หรือโทร. 06-4074-4003 (นนท์) 3552506101 ธนาคารทหารไทย ชื่อบัญชี นายณัฐวุฒิ มามี ขอบคุณเป็นอย่างสูงครับ ช่วยๆ กันแชร์หน่อยนะครับ" ซึ่งมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยบางคนได้โอนเงินร่วมบริจาคเป็นค่าทำศพให้ด้วย แต่มีบางคนตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นจริงหรือไม่ เพราะเกรงว่าจะเป็นมิจฉาชีพ
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 9/3 หมู่ 16 บ้านห้วยน้ำเย็น ต.หนองกุลา อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานศพของ น.ส.วรนุช อายุ 18 ปี ที่ประสบอุบัติเหตุขณะซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่สามีขับขี่ โดยรถเสียหลักล้มบนถนน ก่อนไถลไปชนต้นไม้ทำให้สามีบาดเจ็บสาหัส ส่วน น.ส.วรนุช เสียชีวิตริมถนนสายบ้านห้วยน้ำเย็น-บ้านหนองตะเคียน พร้อมกับลูกในท้อง อายุครรภ์เพียง 6 เดือน โดยมีชาวบ้านในพื้นที่ต่างเดินทางมาช่วยกันจัดเตรียมงานสวดพระอภิธรรมศพคืนสุดท้าย ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของทางญาติๆ และครอบครัว
ด้าน นางแหวน (แม่ผู้เสียชีวิต) เล่าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า เหตุเกิดช่วงกลางดึกคืนวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา น้องส้มพร้อมกับนายโบ๊ท อายุ 21 ปี ซึ่งเป็นสามี ได้พากันขี่รถจักรยานยนต์ไปเที่ยวงานเทศกาลลอยกระทงที่วัดหนองตะเคียน ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 1 กม. ตนเห็นว่าเที่ยงคืนแล้วทั้งคู่ก็ยังไม่กลับมา จนกระทั่งมีชาวบ้านมาบอกว่าลูกสาวประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนต้นไม้ข้างทางให้รีบไปดู ตนจึงปลุกสามีพากันออกไปทันที เมื่อไปถึงเห็นสภาพลูกสาวนอนไม่ได้สติไร้ชีพจรอยู่บนถนน แขนขาหักผิดรูป มีเลือดไหลออกที่ปากและจมูก และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ตนรู้สึกหัวใจแทบขาด ทำใจไม่ได้ ร้องไห้ฟูมฟาย และที่น่าเวทนาไปกว่านั้นคือ ลูกสาวเพิ่งตั้งครรภ์ได้แค่ 6 เดือน ซึ่งเป็นลูกผู้ชาย ก็ต้องมาเสียชีวิตตามกันไปด้วย
...
นางแหวน เล่าต่อว่า ส่วนลูกเขยได้รับบาดเจ็บขาขวาหัก ขณะนี้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.พุทธชินราช และทราบข่าวแล้วว่าภรรยาและลูกในท้องเสียชีวิตทั้งคู่ สร้างความเศร้าสะเทือนใจให้เป็นอย่างมาก ทางครอบครัวได้ให้แพทย์ผ่าท้องนำเด็กออกมาบำเพ็ญกุศลแยกกันกับแม่ เพราะเป็นความเชื่อของคนโบราณว่า ถ้าหญิงสาวที่ตายทั้งกลม ต้องแยกแม่และลูกออกจากกัน จะต้องทำพิธีเผาศพแม่ก่อน ส่วนลูกซึ่งตนตั้งชื่อให้ว่า "น้องแน๊ค" ได้นำร่างฝังดินเอาไว้เป็นระยะเวลา 1 ปี จึงจะทำพิธีฌาปนกิจศพได้ และก่อนเกิดเหตุตนมีลางสังหรณ์ คือ ช่วงวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา อยู่ดีๆ ตนก็หมดแรงไปเฉยๆ จากนั้นเกิดอาการเวียนหัว หน้ามืด ต้องนอนพักอยู่ที่บ้านทั้งวันออกไปทำงานรับจ้างไม่ได้ ที่ผ่านมาไม่เคยเป็นอย่างนี้ พอตกกลางคืนลูกสาวก็มาเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตดังกล่าว

ด้าน นายอเนก (พ่อผู้ตาย) เล่าว่า คืนวันเกิดเหตุมีลางสังหรณ์แปลกๆ เกิดขึ้น คือ ประตูบ้านเปิดปิดเอง ทั้งๆ ที่ไม่มีคนเปิดปิด ไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน ตนจึงเอะใจรีบให้ภรรยาโทรหาลูกสาว โทรติดแต่ลูกสาวไม่รับสาย จนมีญาติมาเรียกที่บ้านถามว่าลูกสาวได้ออกไปเที่ยวงานวัดหรือไม่ ตนก็บอกว่าไป ญาติจึงบอกให้รีบไปดูว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น พอไปถึงก็พบร่างลูกสาวเสียชีวิตไปแล้ว โดยทางครอบครัวก็ไม่ได้ติดใจสาเหตุ เพียงแค่อยากให้ดวงวิญญาณลูกสาวไปสู่ภพภูมิที่ดีเท่านั้น
ด้าน นายณัฐวุฒิ (พี่ชายผู้ตาย) เล่าว่า ตนเพิ่งไปทำงานที่ จ.นครสวรรค์ ได้เพียง 2 วัน จนมาทราบข่าวร้ายว่า น้องสาวประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ส่วนน้องเขยบาดเจ็บสาหัส ทางครอบครัวก็มีฐานะยากจนไม่มีทรัพย์สินเงินทองมากมาย จึงโพสต์ลงเฟซบุ๊กขอควมเมตตาจากผู้ใจบุญร่วมกันบริจาคเงินเป็นค่าทำศพ และจะขอปิดรับบริจาคในวันเสาร์นี้ ซึ่งเป็นวันฌาปนกิจศพน้องสาว ที่วัดดงกวาง อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก
"ยืนยันว่าไม่ใช่พวกมิจฉาชีพหลอกลวงแต่อย่างใด น้องสาวก็เป็นคนดีคอยทำงานหาเงินมาจุนเจือครอบครัว ไปทำงานรับจ้างร้านคาร์แคร์กับสามีในตัว อ.เมืองพิษณุโลก ส่วนสาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุคาดว่าน้องเขยอาจจะขับรถจักรยานยนต์กลับบ้านด้วยความเร็ว เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุเป็นทางโค้งจึงเสียหลักแหกโค้งพุ่งชนต้นไม้ริมทางอย่างจัง ส่งผลทำให้ร่างทั้งคู่กระเด็นไปคนละทิศละทางบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตดังกล่าว" นายณัฐวุฒิ ระบุ
นายณัฐวุฒิ เล่าต่อว่า นอกจากนี้ทางครอบครัวยังได้นิมนต์พระไปเชิญดวงวิญญาณน้องสาวที่จุดเกิดเหตุแล้วตามความเชื่อ เพราะน้องสาวตายทั้งกลม คนโบราณจะถือว่ามีความเฮี้ยนมากๆ เพื่อทำให้ชาวบ้านในพื้นที่สบายใจ สุดท้ายก็ต้องขอขอบคุณผู้ใจบุญทุกคนที่มีมีจิตเมตตาช่วยกันโอนเงินบริจาคเป็นค่าทำศพน้องสาวให้ในครั้งนี้ด้วย.