บทสรุปรักสามเส้าฝ่ายสามีพ่ายรัก หลังเมียสาวไทใหญ่ทิ้งทุกอย่างไปแต่ตัว 14 ปี กลายเป็นอดีต เริ่มต้นใหม่กับกิ๊กหนุ่มรุ่นน้อง รับเสียใจแต่ก็ยันไม่มีโอกาสให้แล้ว ขอทำงานเลี้ยงลูกเลี้ยงแม่ดีกว่า
ความคืบหน้า กรณีเรื่องวุ่นวายสาวถูกฉุดกลายเป็นปัญหารักสามเส้าระหว่าง นางหยก ชาวไทใหญ่ อายุ 38 ปี กับสามี คือ นายวิรัตน์ (ไม่มีนามสกุล) อายุ 44 ปี ที่อยู่กินกันมานานกว่า 14 ปี และนายอ่องยุ่น อายุ 28 ปี ชาวไทใหญ่ หนุ่มคนใหม่ที่พบกันทางเฟซบุ๊ก และลักลอบคบมาได้ 8 เดือน ก่อนที่นายวิรัตน์จะจับได้ในช่วงลอยกระทงที่ผ่านมา และขอร้องให้นางหยกเลิกกับกิ๊ก

แต่ปรากฏว่า กิ๊กหนุ่มได้บุกมาที่ร้านขายของชำ ย่านตลาดบ้านท่อ และนำตัวนางหยกขึ้นรถ จยย.ขี่หายไปทั้งคืน เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา นายวิรัตน์จึงไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ ก่อนที่วานนี้ (4 พ.ย.) ตำรวจจะตามตัวทั้งสองคนพบ และนำมาเคลียร์ปัญหาที่ สภ.ช้างเผือก โดยในส่วนของคดีนางหยกไม่ติดใจเอาเรื่องกิ๊กหนุ่ม ส่วนปัญหารักสามเส้านางหยก ปฏิเสธตอบว่าจะเลือกใคร และอ้างว่าขอเป็นเรื่องภายในครอบครัว
...

ล่าสุดวันนี้ (5 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบนายวิรัตน์ ที่ร้านขายของชำย่านตลาดบ้านท่อ โดยนายวิรัตน์ยังคงขายของอยู่ที่ร้านเช่นเดิม แต่ไม่พบนางหยก จากการสอบถามนายวิรัตน์ กล่าวว่า นางหยกได้เลือกไปอยู่กับกิ๊กหนุ่มแล้ว หลังไปเจรจากันที่โรงพักช่วงบ่ายวานนี้ (4 พ.ย.) นางหยกยังลังเลไม่ตอบว่าจะเลือกใคร แต่ช่วงเวลา 22.00 น.นางหยกให้ญาติมาส่งที่ร้านเพื่อเอาโทรศัพท์มือถือ ก่อนบอกว่าจะกลับบ้านที่อำเภอสันทราย แต่ปรากฏว่านางหยกได้ขอลงรถกลางทาง และให้กิ๊กหนุ่มมารับไป โดยนางหยกไปแต่ตัวไม่ได้เก็บเสื้อผ้าหรือข้าวของอะไรไปด้วย
อดีตสามี กล่าวต่อด้วยเสียงสะอื้นว่า ยอมรับการตัดสินใจของนางหยกที่ไม่เลือกตนเอง และก็ขอให้นางหยกและกิ๊กหนุ่มครองรักกันยาวนาน ตนเองรู้สึกเสียใจเพราะอยู่กันกับนางหยกมานานกว่า 14 ปี สร้างเนื้อสร้างตัวมาด้วยกันตั้งแต่ขี่รถจักรยานคันละ 600 บาท ขายของอยู่ที่ตลาดเมืองใหม่ จนมีร้านขายของชำ และซื้อบ้านจัดสรรอยู่ในพื้นที่อำเภอสันทราย

นายวิรัตน์ กล่าวอีกว่า แม้จะเลิกรากับนางหยกแล้ว แต่ตนก็ยังเลี้ยงดูแม่ น้องชาย และลูกของนางหยกอยู่เช่นเดิม เพราะถือว่าทุกคนเป็นครอบครัวที่ลำบากมาด้วยกันไม่คิดจะละทิ้ง และหลังจากนี้ตนก็จะตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน เพื่อสร้างเนื้อสร้างตัวต่อไป ยังไม่คิดจะมีรักใหม่เพราะยังเจ็บช้ำกับความรักครั้งนี้ และหากนางหยกจะกลับมาอีก ตนเองคงไม่ให้โอกาสนางหยกอีกแล้ว เพราะได้ให้โอกาสไปแล้วครั้งหนึ่ง
เมื่อถามว่าเคยทำร้ายนางหยกหรือไม่ นายวิรัตน์ กล่าวว่า ยืนยันก่อนหน้านี้ไม่เคยลงไม้ลงมือ แต่หลังจับได้ว่านางหยกมีกิ๊ก และกิ๊กหนุ่มยังส่งภาพบาดตาของทั้งคู่มาเยาะเย้ย ตนจึงโมโหลงมือทำร้ายไปด้วยความเจ็บแค้นใจ แต่ก็ไม่คิดโทษนางหยกที่กล่าวหาตนเอง ทั้งนี้ หลังมีข่าวออกไปก็มีชาวบ้านมาให้กำลังใจและมาอุดหนุนซื้อของที่ร้านอย่างต่อเนื่อง จึงขอขอบคุณชาวบ้านและลูกค้าที่คนที่มาให้กำลังใจ
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสัมภาษณ์นายอ่องยุ่น ได้รับคำตอบว่า ไม่ขอให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอีกแล้ว ตอนนี้รู้สึกปวดหัวมาก ก่อนจะวางสายไป.