นักศึกษาสาวประเภทสองที่เชียงใหม่ เข้าให้ปากคำเพิ่มเติม หลังถูกทหารทำร้ายร่างกาย คิ้วแตกเย็บ 4 เข็ม ยืนยันทนไม่ไหวเพื่อนสาวสองถูกบูลลี่ ตะโกนให้ของลับ ด้านแม่ เปิดใจสุดสงสารลูก พร้อมเอาเรื่องคู่กรณีถึงที่สุด
วันที่ 2 ต.ค. ความคืบหน้าคดี นายจิรพันธุ์ พูลวิระยะ อายุ 20 ปี หรือน้องเพทาย สาวประเภทสอง นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ถูกทหาร 2 นาย ทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อเวลา 0.10 น.วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา บริเวณสี่แยกที่นอนปีนัง ใกล้สถานบันเทิง ย่านตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยนายจิรพันธุ์ ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า และคิ้วซ้ายแตก ต้องเย็บถึง 4 เข็ม ก่อนจะเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ช้างเผือก ในช่วงสายวันเดียวกัน
ล่าสุด นายจิรพันธุ์ พร้อมนางณัฏฐิญา อ่อนคง อายุ 47 ปี แม่ และเพื่อนสาวประเภทสองที่อยู่ในเหตุการณ์ 2 คน ได้เดินมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก เพิ่มเติมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งภาพจากกล้อง CCTV ที่ติดตั้งบริเวณสี่แยกดังกล่าว บันทึกภาพเหตุการณ์ขณะนักศึกษาสาวประเภทสองเดินออกจากสถานบันเทิง เพื่อมายังรถกระบะของคู่กรณีที่จอดอยู่บริเวณหัวโค้งทางแยก โดยฝ่ายทหารได้เดินลงจากรถกระบะเพื่อพูดคุยกับกลุ่มนักศึกษาสาวประเภทสอง ก่อนเดินกลับมาที่รถ แต่ปรากฏว่าฝ่ายนักศึกษาสาวประเภทสอง ได้วิ่งโถมเข้าใส่หาทหารจากด้านหลังจนล้มลงต่างนั้นต่างฝ่ายต่างตะลุมบอน จนเพื่อนสาวประเภทสอง และพลเมืองดีเข้ามาห้าม ฝ่ายทหารจึงแยกออกมาและขึ้นรถกระบะขับออกไป ทิ้งให้ฝ่ายสาวประเภทสองนอนบาดเจ็บอยู่ข้างถนนก่อนที่กู้ภัยจะมารับตัวส่งไปรักษาที่โรงยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
...
นายจิรพันธุ์ กล่าวว่า ตนเองเป็นสาวประเภทสอง อยู่กับการบูลลี่มาตั้งแต่เกิด เมื่อเห็นเพื่อนตนเองถูกมองจากฝ่ายคู่กรณีแบบเหยียดหยาม และยังถูกไล่ให้ไปไกลๆ ทั้งที่เพื่อนไม่ได้ทำอะไร แค่เดินผ่านแล้วยิ้มให้เท่านั้น จึงเข้าไปสอบถามคู่กรณีจนมีปากเสียงกัน หลังสถานบันเทิงปิด ก็เดินออกมาและพบกับคู่กรณีที่ขับรถกระบะผ่านแล้วเปิดกระจกรถตะโกนให้ของลับ ตนเองจึงตะโกนเรียกให้คู่กรณีมาเคลียร์ปัญหาแต่กลับถูกทำร้ายจนบาดเจ็บ
ทั้งนี้ ตนเองไม่ได้อยากมีเรื่อง แค่อยากเคลียร์กับคู่กรณีเท่านั้น และเมื่อถูกทำร้ายก็ต้องป้องกันตัวเอง พร้อมยืนยันจะดำเนินคดีกับคู่กรณีให้ถึงที่สุด เพราะตนเองได้รับผลกระทบต้องหยุดเรียน และต้องหยุดทำงานพิเศษ ซึ่งตนเองรับเดินแบบและออกงานอีเวนต์ทั่วไป
ด้านนายณัฐพงศ์ ทรงแบน หรือ น้องแชมเปญ เพื่อนสาวประเภทสองที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า หลังเกิดเหตุตนเองเข้าไปยกมือไหว้คู่กรณี ขอโทษแทนเพื่อน เพื่อไม่ให้เรื่องราวบานปลาย แต่เพื่อนกลับถูกคู่กรณีทำร้ายร่างกายและยังใช้อาวุธปืนข่มขู่
ส่วน นางณัฏฐิญา แม่ของน้องเพทาย บอกว่า หลังทราบข่าวลูกถูกทำร้ายร่างกาย ก็รีบเดินทางมาจากจังหวัดอุตรดิตถ์ทันที และเมื่อเห็นสภาพของลูกก็รู้สึกสงสารจนพูดไม่ออก ไม่คิดว่าจะถูกผู้ชายที่เป็นถึงทหารทำร้ายร่างกายรุนแรงขนาดนี้ ยืนยันจะเอาเรื่องคู่กรณีจนถึงที่สุด และหากเจอคู่กรณีก็อยากถามว่า ทำไมทำรุนแรงกับลูกตนเองเช่นนี้ ถึงขั้นจะฆ่าแกงกันเลยหรือ
แม่น้องเพทาย ยังเล่าต่อว่า ตนเองเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว มีกันสองคนแม่ลูก โดยลูกชายมีพฤติกรรมเป็นหญิงมาตั้งแต่เด็ก อาจเพราะลูกอยู่กับตนเองกันแค่สองคนจึงซึมซับนิสัยผู้หญิงตั้งแต่ชั้น ป.2 เมื่อลูกเป็นเช่นนี้ก็ไม่ว่าอะไร ขอให้ลูกเป็นคนดีของสังคมเท่านั้น ซึ่งลูกก็มีนิสัยรักเพื่อน มีความเป็นตัวของตัวเอง กล้าแสดงออก และไม่ค่อยกลัวใคร ยอมรับว่า ลูกถูกล้อเลียนและบูลลี่มาตั้งแต่เด็ก แต่ลูกก็เป็นคนอดทน ขยันทำงานพิเศษเพื่อหาเงินส่งตัวเองเรียนและใช้จ่าย แบ่งเบาภาระของแม่
สำหรับความคืบหน้าคดี อยู่ระหว่างการสอบปากคำคู่กรณีทั้งสองฝ่าย และพยานแวดล้อม รวมทั้งตรวจสอบหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหา