ศาลฎีกายกฟ้องคดีหมิ่นประมาท หลังนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือบุกตรวจบ้านนายสมัคร ดอนนาปี อดีต ผอ.สำนักอุทยานฯ บนยอดเขาบุกรุกป่าและให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ 3 แห่ง นำไปสู่การฟ้องกันมายาวนาน โดยนายชัยวัฒน์ยิ้มร่าหลังพ้นคดี พร้อมขอบคุณเพื่อนร่วมงานที่ส่งแรงใจช่วยลุ้นคดี
ศาลฎีกายกฟ้องคดีหมิ่นประมาท เปิดเผยเมื่อช่วงสายวันที่ 18 ส.ค. ศาลจังหวัดตากอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่นายสมัคร ดอนนาปี อดีต ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เป็นโจทก์ มีนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 อุดรธานี เป็นจำเลย คดีหมิ่นประมาท จากกรณีเมื่อช่วงปี 2559 นายชัยวัฒน์หัวหน้าชุดปฏิบัติการพญาเสือ กรมอุทยานฯ นำกำลังบุกตรวจค้นบ้านพักนายสมัคร ปลูกอยู่บนยอดเขามิสก๊อก หมู่ 3 บ้านประดาง อ.วังเจ้า จ.ตาก และให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ 3 แห่ง กล่าวหาว่า นายสมัครสร้างบ้านบุกรุกป่าประมาณ 4 ไร่ จนนำไปสู่การฟ้องร้องกันหลายคดี
สำหรับคดีนี้เมื่อวันที่ 10 มี.ค.2561 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง นายสมัครยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ภาค 6 ต่อมาศาลจังหวัดตากอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 6 วินิจฉัยว่า ในส่วนคดีรุกป่าของนายสมัครนั้น เป็นหน้าที่ของกระบวนการตามกฎหมายพิจารณา ส่วนนายชัยวัฒน์มีหน้าเพียงตรวจสอบข้อเท็จจริง และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดี แต่ไม่มีหน้าที่การให้ข่าว ดังนั้นการให้ข่าวของนายชัยวัฒน์ไม่ถือเป็นหน้าที่ และอาจเป็นการชี้นำสังคม ทำให้นายสมัครถูกมองว่าเป็นข้าราชการที่ประพฤติตนมิชอบด้วยกฎหมาย ถือเป็นความผิดจริงตามฟ้อง
พิพากษาแก้ศาลชั้นต้น ให้นายชัยวัฒน์มีความผิด มีโทษกระทงละ 6 เดือน แต่ขณะนำสืบของจำเลย เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา บรรเทาโทษให้ 1 ใน 3 จำคุกกระทงละ 4 เดือน รวม 3 กระทง จำคุก 12 เดือน และไม่มีเหตุสมควรที่จะรอการลงโทษ หลังมีคำพิพากษา นายชัยวัฒน์ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวระหว่างฎีกา ใช้หลักประกันและสัญญาประกันเดิมตีราคา 9 หมื่นบาท ศาลอนุญาตปล่อยชั่วคราว
...
ในครั้งนี้ศาลฎีกามีคำพิพากษาว่า การที่จำเลยให้ข่าวต่อหนังสือพิมพ์และให้สัมภาษณ์ต่อสถานีโทรทัศน์ ในลักษณะยืนยันข้อเท็จจริงว่า โจทก์ปลูกสร้างบ้านบุกรุกป่า และครอบครองที่ดินของทางราชการโดยมิชอบ เป็นการกระทำโดยสุจริต ให้ข่าวไปตามข้อมูลที่จำเลยตรวจสอบ หาได้มีเจตนากลั่นแกล้งใส่ความโจทก์แต่อย่างใด การให้ข่าวและให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวทั้ง 3 ครั้ง เป็นการกระทำในฐานะเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติการตามหน้าที่โดยสุจริต จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 (2) ที่ศาลอุทธรณ์ ภาค 6 วินิจฉัยว่า จำเลยที่ 1 กระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทโจทก์ โดยการให้ข่าวต่อสื่อมวลชนในวันที่ 8-9 และวันที่ 14 ก.ย.2559 และพิจารณาลงโทษจำเลยที่ 1 มานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยที่ 1 ฟังขึ้น พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ภายหลังฟังคำพิพากษา นายชัยวัฒน์มีสีหน้ายิ้มแย้ม และส่งข้อความผ่านไลน์ไปยังกลุ่มเพื่อนที่ส่งกำลังใจและขอขอบคุณทุกคน