หนุ่มบราซิลไม่รู้มาจากไหน ขี่จยย.สวมกางเกงในตัวเดียว บุกทุบกระจกประตูศูนย์ชั่งตวงวัดภาคเหนือ จุดไฟเผาชั้นล่าง แล้วหนีขึ้นไปชั้น2 ต้องใช้สารดับเพลิงฉีดใส่ ก่อนจับตัวไว้ได้ ตำรวจยังมึนไม่รู้บุกเผาทำไม
วันที่ 8 ส.ค. มีภาพเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้ ศูนย์ชั่งตวงวัดภาคเหนือ หมู่ 13 ตำบลบ้านแม อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ โดยเพลิงโหมไหม้บริเวณชั้น 1 ของอาคารสำนักงานมีกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงในอำเภอสันป่าตอง มีการระดมรถน้ำรถดับเพลิงกว่า 10 คัน และเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในอาคารอีกกว่า 20 นาย เข้าระงับเหตุ ใช้เวลาควบคุมเพลิงประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
เบื้องต้น ทราบว่าสาเหตุเกิดจากชายต่างชาติคนหนึ่ง บุกเข้าไปทำลายทรัพย์สินและจุดไฟเผาบริเวณชั้น 1 ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สันป่าตอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เข้าตรวจสอบบริเวณชั้นสองของอาคารที่เกิดเหตุโดย พบชายชาวต่างชาติ อยู่ในอาการคลุ้มคลั่งทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมตัว แต่ชายคนดังกล่าวนั้นเรี่ยวแรงเยอะมากทางเจ้าหน้าที่สู้แรงไม่ไหว จึงต้องใช้ถังเคมีดับเพลิงฉีดใส่ก่อนจับกุมตัวเอาไว้ได้และต้องใส่กุญแจมือถึงสองชั้น จากนั้นจึงนำลงมาจากอาคาร
...
พบสภาพสวมกางเกงในเพียงตัวเดียว เอะอะโวยวายพูดจาไม่รู้เรื่อง ทราบเพียงว่าเป็นชายนักท่องเที่ยวชาวบราซิล อายุประมาณ 25-30 ปี ในเป้ากางเกงยังพบธนบัตรเงินสดอยู่ด้วยจำนวนหนึ่ง และได้รับบาดเจ็บบริเวณขาขวา ทางเจ้าหน้าที่ได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและให้รถพยาบาลโรงพยาบาลสันป่าตองนำตัวส่งโรงพยาบาล
นอกจากนี้ ตำรวจยังพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีดำชมพู หมายเลขทะเบียน 2 กฆ 7057 เชียงใหม่ ซึ่งเป็นของชายผู้ก่อเหตุ จอดอยู่บริเวณริมถนนหน้าศูนย์ชั่งตวงวัด ในช่องใส่ของรถ มีขวดน้ำมันเครื่องขนาด 1 ลิตรอยู่ 1 ขวด เจ้าหน้าที่จึงได้นำไปเก็บไว้ที่ สภ.สันป่าตอง
นายพันธ์ คำพีระ อายุ 58 ปี เจ้าหน้าที่ รปภ.ของศูนย์ฯ ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวที่ลงพื้นที่ว่า ชายคนนี้ได้ขับขี่รถจยย. เข้ามาด้วยอาการเอะอะโวยวาย พร้อมกับใช้หมวกกันน็อกทุบประตูทางเข้า ซึ่งเป็นกระจก ในระหว่างนั้นตนก็ได้ประสานแจ้งผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงแจ้ง 191 แต่ไม่มีใครสู้แรงชายคนดังกล่าวได้ จากนั้นเข้าไปภายในอาคารสำนักงานชั้น 1 และเริ่มจุดไฟเผาด้านใน ก่อนหนีขึ้นไปอยู่บริเวณชั้น 2 กระทั่งถูกจับ
อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุ พนักงานสอบสวน สภ.สันป่าตอง ได้เข้ามาตรวจสอบ พร้อมกันที่เกิดเหตุเอาไว้ และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานมาเก็บหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อใช้ประกอบสำนวน ส่วนชายคลุ้มคลั่ง ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจร่างกายของแพทย์ หลังจากนั้นจะได้อายัดตัวมาดำเนินคดีต่อไป