หลายหน่วยงานไปตรวจสอบความแข็งแรงของอ่างเก็บน้ำแม่เฮียว อ.วังเหนือ จ.ลำปาง เบื้องต้นพบความเสียหายเป็นร่องลึกด้านท้ายตัวอ่างจากน้ำที่ล้นไหลกัดเซาะ หวั่นหากมีฝนตกลงมาซ้ำอีก เกรงจะไม่ปลอดภัย
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 5 ส.ค.63 นายประภาศ อึ้งตระกูล นายอำเภอวังเหนือ จ.ลำปาง นายไพรัช ผมไพ ปลัดอำเภอ และนายพงษ์สฤษดิ์ ไชยเครื่อง หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 1 โครงการชลประทานลำปาง พร้อมด้วย นายช่างชลประทาน เจ้าหน้าที่ อส. รวมถึง นายจรัญ อวดร้าง ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านแม่เฮียว ม.7 ต.วังเหนือ อ.วังเหนือ กว่า 20 คนที่ชำนาญเส้นทาง ได้นำ จนท.เดินทางขึ้นไปยังบนเขา ที่ตั้งของอ่างเก็บน้ำแม่เฮียว ซึ่งอยู่เหนือหมู่บ้านแม่เฮียวประมาณ 12 กิโลเมตร เพื่อตรวจสอบสภาพความแข็งแรง และประเมินความปลอดภัยของอ่างเก็บน้ำ
โดยทางขึ้นตัวอ่าง จนท.ต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อขึ้นไป เนื่องจากเส้นทางเป็นดินโคลนและเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก จากนั้นจะต้องเดินเท้าขึ้นไปเกือบ 1 กม. เมื่อไปตรวจสอบพบว่าที่บริเวณสันอ่างเก็บน้ำแม่เฮียว ซึ่งเป็นสันดินท้ายอ่างพังทลายลงเป็นแนวกว้างยาวเกือบ 50 เมตร และเป็นร่องลึก บางจุดลึกเกือบ 3 เมตร ส่วนสาเหตุมาจากน้ำในอ่างที่ล้นข้ามสันอ่างออกมาทำให้มวลน้ำที่ล้นทะลักได้กัดเซาะแนวดินสโลปของท้ายอ่างให้พังทลายลง
...
นายพงษ์สฤษดิ์ ไชยเครื่อง หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 1 โครงการชลประทานลำปาง เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบสันอ่างเก็บน้ำอย่างละเอียด แต่เบื้องต้นพบว่าจากการกัดเซาะของน้ำดังกล่าวหากเกิดฝนตกหนัก และเกิดน้ำป่าหลากลงมาซ้ำอีก อาจจะกระทบทำให้เสียหายมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อโครงสร้างของอ่าง ดังนั้นจึงต้องเร่งตรวจสอบและแก้ไขโดยด่วน นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบเศษวัชพืชไปติดคาอยู่ที่ทางน้ำล้น หรือสปิลเวย์ ทำให้น้ำไหลไม่สะดวก ประกอบกับน้ำป่าที่ทะลักมามาก จึงทำให้น้ำไหลไม่ทัน จึงเกิดเต็มและล้นข้ามมาทางท้ายอ่างจนเกิดการกัดเซาะในที่สุด
ส่วนแนวทางขณะนี้ คือ ให้เร่งระบายลงสู่ลำห้วย และให้เร่งทำทางระบายน้ำฉุกเฉิน เพื่อพร่องน้ำในอ่างให้ลดต่ำลงกว่านี้ ในการเตรียมรับน้ำใหม่ที่อาจจะเข้ามาอีก และจะไม่ให้กระทบต่อสันดินบริเวณจุดที่เสียหาย หรือแนวสันดินของอ่างเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ทางชลประทานลำปางก็จะได้ตรวจสอบโครงสร้างและความแน่นของสันดินอย่างละเอียด เพื่อประเมิณความปลอดภัย ซึ่งขณะนี้ยังไม่น่ากังวล เพราะดินสโลปที่ถูกกัดเซาะไปนั้น ยังไม่กระทบต่อสันอ่างมากนัก แต่ห่วงฝนตกหนักและน้ำป่าที่อาจจะทะลักมาอีก ก็อาจจะเป็นอันตรายได้
ด้าน นายไพรัช ผมไพ ปลัดอำเภอ เปิดเผยว่า อ่างดินดังกล่าวสร้างเมื่อปี 2527 หรือ 36 ปีแล้ว ตอนนี้จากการที่ประเมินยังคงมีความปลอดภัยอยู่ แต่สิ่งที่น่าห่วง คือ หากมีฝนตกหนักลงมาซ้ำอีกอาจะทำให้ตัวอ่างได้รับความเสียหายเพิ่ม ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งสำรวจความเสียหาย และหาแนวทางแก้ไข ส่วนทางอำเภอก็จะได้ทำความเข้าใจกับชาวบ้าน เพื่อไม่ให้เกิดการตื่นตระหนกเหมือนเมื่อคืนนี้อีก.