ลูกสาว "จารุชาติ มาดทอง" พยานคดี "บอส อยู่วิทยา" เผยมีชายลึกลับนำโทรศัพท์มือถือของพ่อ สภาพ "แตกละเอียด-ซิมหาย" มาส่งให้ญาติที่ รพ. ขณะที่ญาติสงสัยหลายอย่าง เผยช่วงหลังผู้ตายเก็บตัว เพราะมีคนเตือนเรื่องถูกตัดตอน ไม่เข้าใจทำไมคืนเกิดเหตุถึงออกจากบ้าน
เวลา 09.00 น.วันที่ 1 ส.ค.63 ที่บ้านงานศพนายจารุชาติ มาดทอง พยานปากสำคัญ คดี "บอส อยู่วิทยา" บ้านเลขที่ 225 หมู่ 15 บ.วังชมภู ต.ม่วงคำ อ.พานบ้าน น.ส.แพร ลูกสาวนายจารุชาติ มาดทอง กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ทันทีที่รู้ข่าวในตอนเช้าประมาณ 7 โมง จากคนที่บ้านบอกว่าพ่อเสียชีวิต ตอนนั้นรู้สึกวูบเลย และงง เพราะตัวเองเพิ่งรู้ว่าพ่อไปเป็นพยานคดีรถชนเมื่อมีชื่อพ่อออกสื่อไปกี่วันก่อนหน้านี้ แล้วมารู้ว่าพ่อตาย รู้สึกตกใจมาก
ลูกสาวผู้เสียชีวิตกล่าวว่า ไม่ค่อยได้อยู่กับพ่อ แต่พ่อก็จะโทรมาคุยกันตามประสาพ่อลูก เรื่องกิจวัตรประจำวัน ลูกสบายดีไหม กินข้าวหรือยัง ตอนนี้ทำอะไรอยู่ ประมาณ 2-3 วันครั้ง แต่พ่อไม่เคยเล่าเรื่องเกี่ยวกับคดีหรือเรื่องที่พ่อทำอะไร และตอนที่เกิดเรื่องตอนนั้น ปี 2555 ตนเองก็ยังอายุไม่กี่ขวบ ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร และไม่รู้ว่าทำไมคนถึงสนใจมาก ถ้าไม่ใช่อุบัติเหตุตามที่คนสงสัยตนเองก็อยากรู้ว่าพ่อตายเพราะอะไร ส่วนโทรศัพท์ของพ่อ ญาติบอกว่าตัวเครื่องแตกละเอียด และไม่เห็นซิมอยู่ในเครื่อง มีคนเอามาให้ที่โรงพยาบาลมหาราชเชียงใหม่ ส่วนเป็นใครไม่มีคนรู้จัก
...
เมื่อถามถึงเบอร์โทรของนายจารุชาติ น้องแพร ได้กล่าวบ่ายเบี่ยงว่า เวลาพ่อโทรศัพท์มาจะใช้เครื่องโทรสาธารณะบ้าง ใช้เบอร์เปลี่ยนใหม่บ้างโทรมา ส่วนมากคุยกันทางไลน์ เป็นคำตอบคล้ายกับนางตา วังมูล อายุ 76 ปี แม่คนตาย ที่ตอบคำถามของผู้สื่อข่าว ในลักษณะคล้ายกัน แนวทางเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้สอบถามจากญาติห่างๆ ของผู้เสียชีวิตทราบว่าก่อนหน้าประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา นายจารุชาติ พยายามเก็บตัวไม่ไปไหน เพราะมีคนเตือนว่าระวังจะมีการตัดตอน ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคืนนั้นนายจารุชาติถึงออกจากบ้าน และการกลับมาบ้าน ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ไม่ได้มาเก็บตัวโควิด เพราะเป็นช่วงก่อนโควิด มาอยู่บ้านประมาณ 4-5 วัน แล้วไปอยู่กับทนายที่ จ.เชียงใหม่ ได้ยินว่าไปขับรถให้นาย แต่ก็ไม่ทราบอะไรมากกว่านี้ และญาติคนนี้ไม่ได้เดินทางไปด้วยจึงไม่รู้ว่าใครเป็นคนเอาของใช้ส่วนตัวผู้ตายมาส่งให้ที่ รพ.มหาราชเชียงใหม่ เหมือนไม่ให้รู้ว่าไปอยู่กับใคร และเท่าที่สอบถาม การจัดการนำศพออกจากโรงพยาบาล ถูกดำเนินการอย่างเร่งด่วนมาก ญาติอยู่ในสภาพที่เสียใจและมึนงง เลยไม่มีใครบอกรายละเอียดได้ว่า มีการผ่าพิสูจน์ถึงสาเหตุการเสียชีวิตหรือไม่อย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความสงสัยไหมเกี่ยวกับอุบัติเหตุครั้งนี้ ญาติผู้เสียชีวิตกล่าวว่า พอเกิดเหตุก็ได้พูดคุยปรึกษากันในครอบครัว แต่พวกเราชาวบ้านทำอะไรไม่ได้ แม้จะรู้ว่าสังคมสงสัย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ แค่จะเอาตัวรอดไปวันๆ ก็ลำบากแล้ว ต้องดูแลหลาน คือลูกสาวนายจารุชาติ ที่ตายไป อะไรที่สงสัย อยากจะเข้าไปติดตาม หากทำแบบนั้นมันก็ไม่จบ และคงก็ไม่ต้องเป็นอันทำอะไรกัน สรุปคงต้องปล่อยไป