ปลัดอำเภอแม่ริม ชี้ ยิ่งพยานคนบริจาคเงินช่วยไฟป่า "ฌอน" โผล่แจ้งมากเท่าไหร่ เจ้าตัวจะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น แนะทางรอดเจ็บน้อย คือ มาพบชี้แจงข้อเท็จจริงหนักเป็นเบา เงินจะมีหรือไม่ค่อยว่ากันอีกที
กรณีนายฌอน บูรณะหิรัญ ไลฟ์โค้ช ที่นำกระแสข่าวไฟไหม้ป่าดอยสุเทพ ทำให้เกิดหมอกควัน ไปพูดในการขอเรี่ยไรและให้ร่วมบริจาคจะนำเงินไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าเชียงใหม่ ทำให้คนแห่บริจาคกันอย่างท่วมท้นจากทั่วประเทศ ได้เงินไปจำนวนมาก แต่เงินกลับไม่ถึงมือเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าแม้แต่รายเดียว ทำให้เกิดการทวงถามขึ้นมา จนมีการแจ้งศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่ริม ทำให้นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่"ฉายาปลัดจอมแฉ"รับเรื่องและลุยหาหลักฐาน จนพบความไม่ชอบมาพากลในการใช้เงินบริจาค รวมทั้งมีเจ้าทุกข์ที่ร่วมบริจาคเงินให้นายฌอนเข้ามาให้ปากคำ ทำให้สามารถจะดำเนินคดีกับนายฌอนในพื้นที่เชียงใหม่ได้เลยตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ตามที่มีกระแสข่าวว่านายฌอน บูรณะหิรัญ จะนำเงินจำนวน 1.3 ล้านบาท มามอบให้กับทางนายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผวจ.เชียงใหม่ นั้น และ ผวจ.เชียงใหม่ประกาศไม่รับเงินนายฉอน ในเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามทาง ผวจ.เชียงใหม่ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ แต่ทราบจากทางเจ้าหน้าที่ติดตาม ผวจ.เชียงใหม่ บอกว่าไม่เคยมีการสอบถาม ผวจ.เชียงใหม่ในเรื่องนี้เลย แต่ไม่ทราบว่ามีข่าวออกไปได้อย่างไร น่าเชื่อว่าจะมีการสื่อสารผิดไปจากข้อเท็จจริง ซึ่งในเรื่องของนายฌอน ทาง ผวจ.เชียงใหม่ได้มอบเรื่องให้กับอำเภอที่เกี่ยวข้องในเรื่องไฟป่า มีอำเภอเมือง,อำเภอหางดงและอำเภอแม่ริม ดำเนินการไปแล้ว
สำหรับในส่วนของอำเภอแม่ริม ปลัดอำเภอแม่ริม ยังคงเดินหน้ารวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งในขณะนี้ยิ่งสาวยิ่งลึก และมีพยานที่บริจาคเงินให้กับนายฌอน เริ่มเปิดตัวมาถึง 5-6 รายแล้ว ซึ่งแต่ละรายอยู่ในหลายจังหวัด และยากต่อการเดินทางในช่วงนี้ ซึ่งทางนายบุญญฤทธิ์เองก็หนักใจเพราะในที่สุดจะต้องเดินทางไปหาพยานตามจังหวัดต่างๆ ที่แจ้งมา
...
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 24 ก.ค.63 นายบุญญฤทธิ์ กล่าวว่า ในตอนนี้มีพยานที่บริจาคเงินให้กับนายฌอน บูรณะหิรัญ จำนวนหลายคนที่เปิดตัวโทรติดต่อกับตนมา ตนก็ขอดูท่าทีของนายฌอน ก่อน แต่หากมีการแจ้งความในหลายพื้นที่ ตนก็จะต้องไปเป็นพยานในเรื่องการโอนสลิปต์ให้กับทุกๆที่เช่นกัน นายฌอนจะลำบาก เพราะต้องไปทุกแห่งเช่นกัน ซึ่งตนยืนยันเลยว่าจะมีพยานที่จะมาให้การเยอะมากในตอนนี้ร่วม 10 คนแล้ว ถ้ามาที่เชียงใหม่เลยจะเป็นการดี เพราะจะได้สอบทีเดียวเลย
ผู้สื่อข่าวถามว่ามาถึงตอนนี้จะมีทางออกที่ดีที่สุดสำหรับนายฌอน หรือไม่ ปลัดแม่ริม ชี้ทางออกว่านายฌอน ต้องมาพบตน เพราะท้ายที่สุดนายฌอนไม่มา ตนก็ต้องออกหมายเรียกอีกครั้งอยู่ดี ดังนั้นตนอยากขอความร่วมมือจากนายฌอนดีๆมาพบตนคุยกับว่าผิดอย่างไรและรับสารภาพ มาทำบันทึกข้อตกลงกันจะยอมอย่างไรก็ว่ากันไป ตนขอบอกว่าหากยังนิ่งเฉยอยู่ก็ไม่เป็นผลดีกับเขา เพราะในเรื่องที่เกิดขึ้นนายฌอนไม่มีใบอนุญาตเรี่ยไรอยู่แล้ว เขาจะปฎิเสธอย่างไรมันไม่พ้นอยู่แล้ว หากศาลลงเดือนหนึ่งก็ต้องติดคุก 1 เดือนอยู่ดี อย่าไปคิดว่าศาลไม่ลงโทษ
นายบุญญฤทธิ์ กล่าวอีกว่า การที่นายฌอนมาพบตนไม่จำเป็นต้องมาพร้อมกับจำนวนเงินที่จะมามอบคืน ขอให้มาพบก่อน เงินไม่มีก็ว่ากันไปเป็นคดีแพ่งถ้ายอมชดใช้ ใครจะเป็นผู้เสียหายในเรื่องเงินตัวนี้ก็ว่ากันไปอีกที นาทีนี้สิ่งที่ดีที่สุดของเขา คือ ต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจ เปิดทุกบัญชี มาตกลงมาให้ผมดูว่า ยอดบริจาคเท่าไร เงินเท่าไร บริจาคเท่าไร คุณใช้ไปเท่าไหร่ก็มาชี้แจงเท่านั้นเอง
"ที่ฌอนพูดว่าให้ตรวจสอบบัญชีมันไม่ใช่ พอเขาจะตรวจจริงก็ไม่ให้ตรวจ ผมถามว่าคุณบริจาคช่วยไฟป่าเชียงใหม่ มันมี 3 อำเภอ ในตอนนี้มีอำเภอหนึ่งยื่นมือมาขอทราบและยังเป็นอำเภอที่มีพื้นที่ส่วนใหญ่ของป่าดอยสุเทพที่ถูกไฟไหม้เป็นพื้นที่ใหญ่ไฟเยอะ คุณก็ไม่ยอมมาไม่ยอมให้ ที่เขาอ้างไม่รู้กฎหมายก็เข้าใจอยู่ ก็มาพบเพื่อจะให้เข้าใจไม่ใช่ดื้อ ผมต้องการให้โอกาสคน ใครก็ทำผิดได้ก็จะให้โอกาส หรือจะให้ไปรับสารภาพที่ศาลหรือ ก็ควรจะเข้ามาคุยกันไม่จำเป็นต้องต่อหน้าสื่อ เข้ามาพบเงียบๆก็ได้แล้วค่อยว่ากัน" ปลัดจอมแฉ กล่าว.