ปลัด อ.แม่ริม เดินหน้าหาพยานบริจาคเงิน "ฌอน" บอกหลังจากนี้ไม่จำเป็นต้องเรียกตัวแล้ว โดยเมื่อสอบพยานเสร็จจะเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ในความผิดเรื่องเรี่ยไร ยืนยันต้องทำความจริงให้ปรากฏ
กรณีนายฌอน บูรณะหิรัญ ไลฟ์โค้ช ที่นำกระแสไฟไหม้ป่าดอยสุเทพ ทำให้เกิดหมอกควัน ไปพูดในการขอเรี่ยไรและให้ร่วมบริจาคจะนำเงินไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าเชียงใหม่ ทำให้คนแห่บริจาคกันอย่างท่วมท้นจากทั่วประเทศ ได้เงินไปจำนวนมาก แต่เงินกลับไม่ถึงมือเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าแม้แต่รายเดียว ทำให้เกิดการโวยวายขึ้นมา จนมีการแจ้งศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่ริม โดยนายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ "ฉายาปลัดจอมแฉ" รับเรื่องและลุยหาหลักฐาน แบบกัดไม่ปล่อยเพื่อให้มีการดำเนินคดีกับนายฌอนให้ได้
และเมื่อเช้าวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมานายฌอน ส่งตัวแทนนำเอกสารชี้แจงมาให้นายบุญญฤทธิ์ โดยในหนังสือของนายฌอนระบุว่าได้ชี้แจงให้กับหน่วยงานราชการของเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 2 ก.ค.แล้ว โดยไม่ระบุว่าเป็นหน่วยงานไหน ซึ่งทางผู้สื่อข่าวได้ถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่มีใครออกมายืนยันว่ามีการชี้แจงจากนายฌอนเลย ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 18 ก.ค.นี้ ผู้สื่อข่าวได้ถามความคืบหน้ากับ ปลัดอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ ในการดำเนินการกับนายฌอน โดย นายบุญญฤทธิ์ กล่าวว่า ตนได้ทำหนังสือขอสเตทเมนต์จากสำนักงานใหญ่ของธนาคารที่นายฌอนใช้ในการขอเรี่ยไรบริจาค เพราะที่เชียงใหม่นายฌอนเขาปิดบัญชีที่ธนาคารแห่งนี้หลังจากที่มีเรื่องขึ้นมาไปแล้ว โดยในขณะนี้ตนกำลังประสานผู้เสียหายอยู่ ซึ่งมีคนติดต่อมาจะเข้ามาให้ถ้อยคำกับตนประมาณ 4-5 คน ซึ่งเมื่อมาให้ถ้อยคำแล้วก็ถือว่าสมบูรณ์แล้ว เรื่องนี้มันเกี่ยวกับความรู้สึกของประชาชนที่เสียเงินบริจาค ซึ่งมีหลายคนประสานมาอยากจะให้ถ้อยคำ แต่เสียดายที่อยู่ไกลการเดินทางไม่สะดวก ถ้าไม่มาตนก็คงต้องตาม
...
ปลัดอำเภอแม่ริม กล่าวอีกว่า ในส่วนของตนหากได้พยานครบในการเรี่ยไร ก็จะทำการสอบสวนดำเนินในคดีทำการเรี่ยไร มี 3 อัตราโทษ 1. เรี่ยไรโดยไม่ได้รับอนุญาตก็มีความผิด 2.เมื่อเขาบริจาคเงินมาก็ต้องออกใบเสร็จให้กับเขาและคนเรี่ยไรก็ต้องเก็บต้นขั้วไว้เพื่อตรวจสอบ 3.ผิดวัตถุประสงค์ของการเรี่ยไร เรื่องนี้ชัดเจนอยู่แล้วว่าเรี่ยไรเพื่อมาช่วยไฟป่า แต่ไม่ได้ออกมาช่วยไฟป่าแต่เอาไปช่วยอย่างอื่น เอาไปแล้วไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะเลย แต่นำไปใช้ส่วนตัวยิ่งผิดหนักเข้าไปใหญ่อัตราโทษสูง
นายบุญญฤทธิ์ สำหรับตัวนายฌอน ตนไม่ต้องเรียกมาแล้วเพราะเขาอ้างว่าชี้แจงแล้ว แต่สำหรับพยานตนจะทำหนังสือเรียกมา หากสอบแล้วตนก็จะไปร้องทุกข์แจ้งความตำรวจเพื่อดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไปเรื่องนี้ตนขอบอกว่าจะเกาะติดจนกว่าความจริงจะปรากฏ ซึ่งทุกวันนี้มีประชาชนโทษมาให้กำลังใจตนจำนวนมาก โดยขอให้ตนทำคดีนี้ให้เป็นตัวอย่าง และไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างให้พวกอาศัยสถานการณ์มาทำเช่นนี้อีก.