สาวร้อยเอ็ดคนเดิม ตระเวนไปทั่ว กับพฤติกกรรมปีนตึกจะโดดลงมา ล่าสุดโผล่ที่ชั้น 4 อาคารเรียนวิทยาลัยเทคนิคแพร่ กรีดร้อง อ้างถูกเบี้ยวค่าแรงงาน ครูช่วยหาข้าวใหกิน ก่อนรวบรวมเงินให้ไป 3 พันบาท ตำรวจพบประวัติเคยก่อเหตุในหลายจังหวัด
จากเหเหตุการณ์"สาวร้อยเอ็ด"จะโดดตึกฆ่าตัวตาย ช่วงเวลา 11.45 น.วันที่ 15 มิ.ย.โดยศูนย์วิทยุ 191 แพร่ ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จาก ครูวิทยาลัยเทคนิคแพร่ และ นางสิรินาถ สียา แม่บ้านวิทยาลัยเทคนิคแพร่ ว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งปีนขึ้นไปอาคารเรียนชั้น 4 ของวิทยาลัยเทคนิคแพร่ หลังจากได้รับแจ้งแล้ว ตำรวจ สภ.เมืองแพร่ พร้อมหน่วยกู้ภัยแพร่ เดินทางไปยังที่เกิดเหตุตามแจ้ง
เมื่อไปถึงพบ นางสัญญา กาทองทุ่ง ครูวิทยาลัยเทคนิค บอกว่ากำลังปฎิบัติหน้าที่อยู่ภายในตึกวิชาสามัญสัมพันธ์ วิทยาลัยเทคนิคแพร่ ต.ในเวียง อ.เมือง จ.แพร่ ได้มีเสียงหวีดร้องเป็นเสียงผู้หญิงดังๆหลายครั้ง จึงช่วยกันรีบค้นหาต้นเสียงว่าเป็นเสียงของใคร อยู่ตรงไหนของตึก จนกระทั่งพบว่าที่ระเบียงตึกชั้นที่4 มีผู้หญิงไม่ทราบว่าเป็นใคร ปีนออกจากตัวตึกไปนั่งห้อยขา อยู่ จึงแจ้งเจ้าหน้าตำรวจ สภ.เมืองแพร่ และหน่วยกู้ภัยแพร่ ดังกล่าว
...
หลังจากพูดเกลี้ยกล่อมแล้ว ผู้หญิงรายดังกล่าวก็รูสึกผ่อนคลายและยอมขึ้นมาจากระเบียง ทางครูสิทยาลัยเทคนิคแพร่ ได้นำข้าวและน้ำให้ดิน จากนั้นได้สอบถามทราบว่าคือ นางอรสา ไพรพฤกษ์ อายุ 32 ปี อยู่จังหวัดร้อยเอ็ด มี บุตรหนึ่งคน ได้เดินทางมาทำงานที่จังหวัดแพร่ ประมาณ 1 เดือน แต่ไม่ได้รับเงินจากนายจ้าง โดยบอกว่ามาทำงานเป็นช่างทาสี แล้วเมื่อเช้าวันนี้นายจ้างบอกว่าจะมาส่งขึ้นรถกลับบ้านพร้อมกับค่าแรง แต่พอนายจ้างมาส่งถึงปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ในอำเภอเด่นชัยก็รีบเข้าห้องน้ำ และเมื่อออกมาจากห้องน้ำนายจ้างก็หายไป จึงเดินด้วยเท้ามาเรื่อยๆเพื่อจะกลับบ้าน เมื่อถึงเวลาเที่ยงวันเกิดความรู้สึกหิวข้าวแต่เงินไม่มีติดตัว จึงคิดจะไม่มีชีวิตอยู่ เมื่อเดินมาอีกสักระยะเห็นตึกวิทยาลัยเทคนิคแพร่ เห็นตึกสูงจึงเดินขึ้นไปที่ชั้นที่สี แล้วจะกระโดดลงไป พอดีมีคนมาเห็นและช่วยไว้ได้
จากนั้นทางวิทยาลัยเทคนิคได้ได้ช่วยกับรวบรวมเงินได้ประมาณ 3,000 บาท มอบเงินเป็นค่ารถ ให้กับสาวที่จะโดดตึก และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาไปส่งขึ้นรถที่สถานีขนส่งและพยามปลอบโยนไม่ให้คิดสั้นคิดถึงลูกที่รออยู่ทางบ้านสาวก็รับปากจะไม่คิดสั้นอีก
อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบข้อมูลในเวลาต่อมา พบว่า สาวร้อยเอ็ดที่พยามจะโดดตึกครั้งนี้ ทางตำรวจมีประวัติพบว่าเคยทำแบบนี้มาหลายครั้งและหลายจังหวัด โดยที่จ.แพร่เป็นครั้งที่2 โดยเมื่ 2 ปีก่อนเคยจะกระโดดสะพานลอยที่อำเภอสูงเม่น นอกจากนี้ ยังพบว่าได้ก่อเหตุแบบเดียวกันนี้ในอีกหลายจังหวัด ซึ่งหากมีเจตนาหลอกหลวงเพื่อให้ได้ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่น จะต้องถูกดำเนินคดีต่อไป