หน.อุทยานศรีลานนา เผยสาเหตุที่ "ยายพร" หญิงชรา 69 ปีที่หลงป่า ยังแข็งแรงตอนไปพบ เพราะยายรู้หลักการดำรงชีพในป่า และประสบการณ์เก็บของป่าที่สั่งสมมาในชีวิต พาหาทางออกจากป่าจนพบชาวบ้าน
กรณีนางอำพร ตาคำ อายุ 69 ปี ที่หลงป่านานร่วม 6 วัน ทางเจ้าหน้าที่ใช้กำลังผสมป่าไม้, ตำรวจ, ทหาร, ตชด.ฝ่ายปกครองและชาวบ้านร่วม 250 คนออกระดมตามหาตั้งแต่เช้าวันที่ 8 มิ.ย.หลังจากทราบจากนายรัตน์ ตาคำ สามีว่านางอำพร ไปเก็บของป่าตั้งแต่เช้าวันที่ 7 มิ.ย.ยังไม่กลับออกมา ซึ่งการระดมค้นหาจนเจอตัวนางอำพรในสภาพอิดโรย เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 12 มิ.ย.
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เนื่องจากนางอำพร ตาคำ อายุ 69 ปีที่หลงในป่านานร่วม 6 วัน ยังอยู่ในสภาพอ่อนเพลียอิดโรย ทางเจ้าหน้าที่และญาติจึงนำตัวส่งไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลอำเภอพร้าว จ.เชียงใหม่
นายภูพิชิต ช่วยบำรุง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติศรีลานนา จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จุดที่พบยายนั้นเป็นบริเวณป่าห้วยตองหนาม เขตติดต่อระหว่าง ท้องที่ บ้านป่าห้า หมู่ 5 และบ้านหลวง หมู่ 6 ต.โหล่งขอด อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีลานนา ทางเจ้าหน้าที่ได้ระดมค้นบริเวณนั้น เมื่อวันที่ 10-11 มิ.ย. แต่ไม่พบร่องรอยใดๆ ส่วนตัวแล้วมีความเชื่อว่าป่าในพื้นที่ อ.พร้าว มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่จริง
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติศรีลานนา กล่าวต่อว่า เพราะเมื่อถามนางอำพร ยังบอกว่าเห็นรอยเท้าเจ้าหน้าที่เต็มไปหมด แต่ทำไมไม่พบกัน จึงได้เดินหาเส้นทางออกโดยอาศัยผลไม้และน้ำในลำธารประทังชีวิต ด้าน พระครู วรวรรณวิวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยเวียงชัยมงคล ต.โหล่งขอด อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ เจ้าคณะตำบลโหล่งขอด พระครูปรีชาภิวัฒน์ หรือหลวงพี่เดี่ยวพระนักกู้ภัย เจ้าอาวาสวัดทุ่งหลวง อำเภอพร้าว ได้ทำพิธีเปิดป่าในเช้าวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมาขอให้เจอนางอำพร ก็ได้พบจริงๆ
...
นายภูพิชิต กล่าวด้วยว่า สำหรับการหลงป่าของนางอำพร โดยผู้สูงอายุในวัย 69 ปี เป็นคนในพื้นที่ที่อยู่หากินกับป่ามานาน ถือว่าสภาพร่างกายยังแข็งแรงมาก และรู้วิธีการอยู่ในป่าจึงสามารถรอดชีวิตออกมาได้ แต่หากไม่ใช่คนในพื้นที่อายุขนาดนี้ น่าจะเป็นอันตรายได้.