"พีระศักดิ์" จี้กระจายอำนาจท้องถิ่นจัดการ "โควิด-19" กังวลปัญหาเศรษฐกิจ-ปากท้อง เรียกร้อง รบ.คลายล็อกให้คนเมืองลับเเลทำมาหากินได้บ้าง เผยตัวเลขติดเชื้อในจังหวัด เหลือเพียง 1 ราย 

เมื่อวันที่ 23 เม.ย.63 นายพีระศักดิ์ พอจิต สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคฝ่ายค้าน ระบุถึงการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดล่าช้าว่า เท่าที่ตนติดตามเรื่องมาตรการต่างๆของรัฐบาลนั้น เห็นว่ามีความพยายามอย่างเต็มกำลัง ทั้งมาตรการด้านสาธารณสุขและเรื่องการประกาศเคอร์ฟิวส์มาช่วงระยะหนึ่ง จนทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อขณะนี้เริ่มจะลดลงในหลายจังหวัด ซึ่งส่วนตัวเห็นใจรัฐบาล โดยเฉพาะการเยียวยาเเต่ละกลุ่มนั้น รัฐบาลจะต้องบริหารจัดการปัญหาในภาพรวมทั้งประเทศ อย่างไรก็ตามส่วนตัวมองว่า ในบางเรื่องต้องกระจายอำนาจให้ในพื้นที่จัดการกันเองมากขึ้นกว่านี้ หรือในบางจังหวัดที่สถานการณ์เริ่มดีขึ้นเเล้ว ก็กระจายอำนาจให้ท้องถิ่นจัดการกันเองมากขึ้น โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตัดสินใจ บางทีเขาก็เกรงใจส่วนกลางมากไป ซึ่งผู้ว่าฯจะต้องมีการหาทีมงานที่ไม่ใช่ข้าราชการประจำอย่างเดียว อาทิ ต้องมีภาคประชาสังคมทั้งหลาย มาช่วยกันระดมสมองให้การแก้ปัญหาครอบคลุมทุกมิติ เหมือนที่นายกฯ มี นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.และบรรดาทีมเศรษฐกิจคอยช่วยงาน

...

นายพีระศักดิ์ กล่าวต่อว่า จากที่ตนลงพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ มาตลอด เช่นเมื่อวานนี้ (22 เม.ย.) ไปสถานีตำรวจภูธรเมืองอุตรดิตถ์ เพื่อช่วยทำอาหารช่วยแจกจ่ายกว่า 500 กล่อง ทุกฝ่ายก็ร่วมมือกันดีในท้องถิ่นดีมาก เช่น ตำรวจจราจร สภ.เมืองอุตรดิตถ์ คอยจัดระเบียบระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร ชาวบ้านทุกคนไม่มีใครไม่สวมหน้ากากอนามัย และล้างมือก่อนเข้ารับแจกสิ่งของตามที่สาธารณสุข (สธ.) กำหนด ซึ่งตนคุยกับคนอุตรดิตถ์ทุกวันเห็นว่า ท้องถิ่นเขาจะรู้ได้ไวกว่า เข้าใจว่าพื้นที่จุดไหนต้องใช้มาตรการแบบใดจัดการเยียวยาชาวบ้าน อย่าลืมว่าเรื่องต่อไปที่น่ากังวลมากที่สุด คือ เรื่องเศรษฐกิจ และความเครียดของคน ที่ทำมาหากินไม่ได้ในระหว่างการเเพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หากถูกกดดันนานๆก็ไม่น่าจะไหว ต้องพยายามคลายล็อกให้ชาวบ้านอยู่ในภาวะที่ทำมาหากินได้บ้าง วันนี้คนอุตรดิตถ์ให้ความร่วมมือมาเยอะ ถ้าจะมีการคลายล็อกก็อยากให้มีชื่อ จ.อุตรดิตถ์ เป็นหนึ่งในนั้น เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อล่าสุด จ.อุตรดิตถ์ เหลือเพียง 1 ราย หายป่วยและกลับบ้านไปแล้ว 2 ราย นอกจากนี้ยังรู้ต้นสายปลายเหตุและประวัติผู้ติดเชื้ออย่างละเอียดเเล้วด้วย