ผวจ.แม่ฮ่องสอน ประกาศเคอร์ฟิว 22.00 ถึง 04.00 น.ห้ามออกนอกเคหสถาน และห้ามชาวต่างชาติ และคนต่างถิ่นเข้าเมือง หวังสกัดการระบาดของโควิด-19 ด้าน ประชาชนยอมรับมาตรการนี้

เมื่อวันที่ 1 เม.ย.63 นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ออกคำสั่งประกาศจังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2563 เรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 (ฉบับที่ 3) เนื่องด้วยจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในหลายอำเภอ และมีแนวโน้มจะระบาดเพิ่มมากขึ้น

ดังนั้นเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคไปสู่ประชาชนวงกว้างและการควบคุมพื้นที่ ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้มาตรการเฝ้าระวัง ควบคุม ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคอย่างเข้มข้น เพื่อลดโอกาสการแพร่ระบาดของโรคในสถานที่ต่างๆ ที่มีความเสี่ยงสูง จึงมีคำสั่งดังนี้


1. ห้ามให้ประชาชน เข้า-ออก พื้นที่ จังหวัดแม่ฮ่องสอนในเวลา 22.00 น. - 04.00 น. เว้นแต่ทางการแพทย์และผู้ที่ได้รับการอนุญาต

2. ให้ผู้อาศัยใน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ห้ามไม่ให้ออกนอกเคหสถาน ในเวลา 22.00 น. - 04.00 น.

...

3. ห้ามคนที่ไม่มีสัญชาติไทยเข้าพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนโดยเด็ดขาด ยกเว้น 3.1 ผู้ที่เดินทางเข้ามาก่อนประกาศนี้ 3.2 เป็นผู้ที่นายกรัฐมนตรีให้การยกเว้น 3.3 เป็นบุคคลในคณะทูตต่างประเทศ

4. ผู้ที่มีสัญชาติไทยเดินทางมาจากกรุงเทพและจังหวัดในปริมณฑลหรือจังหวัดที่เสี่ยงให้รายงานตัวกับ อสม.หรือผู้นำหมู่บ้านในพื้นที่ทุกราย เพื่อกักตัว 14 วันนับจากวันที่รายงานตัว

5. ให้ผู้ประกอบการโรงแรม ที่พักต่างๆ คัดกรองไข้ก่อนทุกครั้ง จัดทำทะเบียนคุมผู้บริการหากเป็นชาวต่างชาติให้แจ้งเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคทันที หากผู้ใดฝ่าฝืน มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ประกาศ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 เป็นต้นไป

การออกประกาศคำสั่งดังกล่าวฯ ประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วย เนื่องจากจะเป็นมาตรการเดียวที่สามารถควบคุม การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนได้อย่างเด็ดขาด ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีคำสั่งประกาศเคอร์ฟิวออกมานั้น แหล่งข่าวแจ้งว่าที่หมู่บ้านต่างๆ ในเขตเส้นทางออกไปสู่จุดผ่อนปรนชายแดน ปรากฏว่าในห้วงเวลากลางคืน ราษฎรในหมู่บ้านพบเห็นมีรถจากต่างถิ่น วิ่งเข้า-ออก ในหมู่บ้านและมีการขนย้ายคน ซึ่งคาดว่าเป็นต่างด้าว กลับเข้ามาเพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศเมียนมา โดยคาดว่าจะเดินหลบด่านเจ้าหน้าที่กลับไปยังเมียนมาตามช่องทางธรรมชาติ ซึ่งไม่แน่ใจว่ากลุ่มคนเหล่านี้ติดเชื้อโควิด บ้างหรือไม่ เนื่องจากจังหวัดเชียงใหม่เป็นพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคฯ อย่างรุนแรง.