เกิดเหตุไฟลุกไหม้ป่าห้วยตึงเฒ่า เขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย นานกว่า 8 ชม. กินแนวยาวพื้นป่า 5 กม. ระดม จนท.เร่งดับ ล่าสุดคุมเพลิงได้แล้ว รอรุ่งเช้าประเมินความเสียหาย คาดสาเหตุชาวบ้าน แอบลักลอบหาของป่าจุดไฟทิ้งไว้

เมื่อวันที่ 18 มี.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุไฟป่าลุกลามต่อเนื่อง ตั้งแต่เวลา 14.00 น.ในพื้นที่ขอใช้ประโยชน์ของทหาร เหนือห้วยตึงเฒ่า ก่อนจะลามไปยังท้ายหมู่บ้านพักข้าราชการตุลาการ จ.เชียงใหม่ (บ้านป่าแหว่ง) โดย นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เดินทางมาบัญชาการที่เกิดเหตุด้วยตนเอง พร้อมกับสั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่เสือไฟ เจ้าหน้าที่กู้ภัย เจ้าหน้าที่ดับเพลิง กว่า 200 นาย เข้าดับไฟ ขณะที่ เฮลิคอปเตอร์จากกระทรวงทรัพยธรรมชาติและสิงแวดล้อม (ทส.) พร้อมน้ำ ได้บินเข้าช่วยเหลือดับไฟแล้วกว่า 30 เที่ยว โดย หนึ่งในอุปสรรค คือ ลักษณะพื้นที่ซึ่งเป็นภูเขาสูง อีกทั้งยากต่อการเข้าถึง และพื้นที่มีเชื้อเพลิงสะสมจำนวนมาก จึงทำให้ไฟลุกลามเป็นแนวยาว นอกจากนี้ยังมีการระดมรถบรรทุกน้ำดับเพลิง จากเทศบาลหลายเทศบาลในพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งจาก อ.แม่ริม และเทศบาลนครเชียงใหม่ นำน้ำเข้าไปฉีดสกัดไฟไม่ให้ลุกลามขยายวงกว้าง โดยเมื่อเวลาประมาณ 22.30 น.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้วทั้งหมด โดยใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมง ซึ่งไฟป่าในครั้งนี้ลุกไหม้กินแนวยาวประมาณ 5 กิโลเมตร โดยเจ้าหน้าที่จะประเมินความเสียหายที่ชัดเจนอีกครั้งหนึ่งในตอนเช้า

ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้คาดว่า ชาวบ้านอาจเข้าไปลักลอบหาของป่า แล้วจุดไฟทิ้งไว้ ขณะนี้ยังไม่สามารถดับเพลิงได้ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีเชื้อเพลิงสะสมจำนวนมาก และเป็นป่าเต็งรัง ทำให้ติดไฟและลุกลามได้ง่าย ซึ่งหลังเกิดเหตุบริเวณรอบๆจุดที่เกิดเหตุ มีกลุ่มควันไฟเป็นจำนวนมาก จนชาวบ้านแสบหูแสบตาไปหมด

...

อย่างไรก็ตาม หลายวันก่อนหน้านี้ ได้เกิดไฟไหม้ป่าบริเวณดังกล่าวมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งอยู่ติดกับหมู่บ้านพักของตุลาการ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องระดมรถน้ำกว่า 10 คัน เข้ามาระงับเหตุ โดยใช้เวลาร่วม 5 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบลง