ตำรวจเชิญลูกสาว-ลูกเขย แม่เฒ่า 82 ถูกทำร้ายทุบตีสอบที่โรงพัก ลูกสาวรับตีแม่จริง อ้างชอบปีนรั้วหนีเข้าบ้านข้างๆ เหตุเป็นโรคหลงๆ ลืมๆ ต้องตีเพื่อปราม ด้านลูกเขยปัดทำร้ายแม่ยาย โยนเมียทำคนเดียว ค้นประวัติพบลูกเขยเคยต้องคดีเสพยา-เมาอาละวาด ส่ง พนง.สอบสวนแจ้งข้อหาทั้ง 2 นัดมาพบใหม่ 13 มี.ค.นี้
จากเหตุการณ์ คุณยายวัย 82 ปี ชาว จ.พิษณุโลก ถูกลูกสาวในไส้ทำร้ายทุบตีเป็นประจำ จนเขียวช้ำทั้งตัว หลังเพื่อนบ้านสุดทนอัดคลิปแฉลงในโซเชียล ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเวลา 18.30 น. วันที่ 12 มี.ค.63 พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจไปเชิญตัว นางเฉลียว จันทร์ฟุ้ง อายุ 49 ปี และสามีคือ นายวิโรจน์ กลิ่นลูกจันทร์ อายุ 53 ปี มาสอบปากคำเบื้องต้น หลังจาก นางปัทมา อินชู หัวหน้าพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าแจ้งความไว้กับ ร.ต.อ.หญิง ชนานันท์ ชัยกาวิน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อให้ดำเนินคดีกับทั้งสองคน ก่อนนำตัว นางมาลี จันทร์ฟุ้ง อายุ 82 ปี มารดาที่ถูกทำร้ายร่างกายไปตรวจร่างกาย เพื่อนำใบรับรองแพทย์มาประกอบสำนวนคดี
โดย พ.ต.อ.ภาคภูมิ ได้สอบถามเรื่องที่ทั้งสองคนเมาสุราทำร้ายร่างกายมารดา นางเฉลียว ยอมรับว่า ตีมารดาจริง เพราะชอบปีนรั้วเข้าไปในบ้านของเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน ทั้งๆ ที่เดินไม่ได้ก็ยังเกาะสิ่งของเดินไปที่รั้วเพื่อปีนเป็นประจำ เพราะเป็นโรคหลงๆ ลืมๆ ตนเลยต้องตีเพื่อไม่ให้ทำอย่างนั้น ส่วนนายวิโรจน์ผู้เป็นสามีปฏิเสธว่า ไม่ได้ทำร้ายร่างกายแม่ยาย มีเพียงภรรยาคนเดียวที่ทำร้ายร่างกายแม่ยาย ซึ่งนายวิโรจน์นั้นเคยถูกดำเนินคดีเสพยาบ้าเมื่อปี 2552 และเมาสุราอาละวาดมาแล้วก่อนหน้านี้ จากนั้นตำรวจสายตรวจได้คุมตัวทั้ง 2 คน ส่งให้ ร.ต.อ.หญิง ชนานันท์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เพื่อให้แจ้งข้อกล่าวหาทั้งสองคนว่า ทำร้ายบุพการีฯ โดยนางเฉลียวให้การรับสารภาพ ส่วนนายวิโรจน์ให้การปฏิเสธ ก่อนที่ตำรวจจะปล่อยตัวกลับบ้าน และนัดให้มาพบเพื่อดำเนินการตามกฎหมายในวันพรุ่งนี้ต่อไป (13 มี.ค.)
...