ครอบครัวสุดเศร้า รับศพ "น้องต่าย" พนง.สาวคลินิกเสริมความงาม ถูกอดีตสามีบุกรัวยิงเสียชีวิต กลางห้างเซ็นจูรี่ ย่านอนุสาวรีย์ชัยฯ พ่อร่ำไห้ จุดธูปบอกลูกสาว "ถึงบ้านเราแล้ว" บอกรักลูกมาก ยังทำใจไม่ได้ ด้านน้าสาวไม่ให้อภัยอดีตหลานเขยปืนโหด
เมื่อวันที่ 19 ก.พ.63 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยายกาศ ที่บ้านเลขที่ 69 บ้านท่าไผ่ หมู่ 3 ต.ยกกระบัตร อ.สามเงา จ.ตาก ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ น.ส.ปิยานุช ฉัตรไทย หรือต่าย อายุ 27 ปี ผู้เสียชีวิต จากเหตุถูกอดีตสามียิงภายในห้างสรรพสินค้าย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ซึ่งมี นายวีระและนางตุ๋ย ฉัตรไทย พ่อและแม่ พร้อมญาติพี่น้อง มารอรับศพเป็นจำนวนมาก
โดยศพ น.ส.ปิยานุช ได้ถูกเคลื่อนย้ายออกจากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อเวลา 15.30 น. โดยใช้เวลาเดินทางมาถึงบ้านเกิดประมาณ 6-7 ชั่วโมง เนื่องจากมีระยะทางไกล และเป็นช่วงเวลากลางคืน เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการเคลื่อนย้ายศพ
ต่อมาเวลา 21.00 น. ศพได้เดินทางมาถึงบ้าน พ่อและแม่ต่างร่ำไห้ด้วยความอาลัยต่อการจากไปของลูกสาวอย่างไม่มีวันกลับ โดย นายวีระ ผู้เป็นพ่อ ได้จุดธูปบอกลูกสาวที่นอนแน่นิ่งในโลงศพ ว่า "ถึงบ้านเราแล้ว" ก่อนจะเดินนำโลงศพลูกสาวเข้าสู่บ้านพัก
...
นอกจากนี้ ผู้เป็นพ่อ ยังกล่าวทั้งน้ำตาว่า "ผมรักลูกสาวคนเล็กมาก ผมมีลูกสาวสองคน คือ น.ส.วันวิสา ฉัตรไทย อายุ 30 ปี เป็นลูกสาวคนโต ส่วน น.ส.ปิยานุช เป็นลูกสาวคนเล็ก นิสัยดี ไม่เคยทำให้พ่อแม่เสียใจ ผมไม่เคยด่าว่าหรือทุบตีตั้งเล็กจนโต ผมเสียใจมากที่รู้ว่าถูกแฟนทุบตี ผมเสียใจมาก นึกไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุร้ายกับลูกสาว ยังทำใจไม่ได้"
ขณะที่ นางตุ๋ย ผู้เป็นแม่ กล่าวว่า "อยากจะบอกลูกว่า ไม่ต้องเป็นห่วงลูกชาย ตายายจะเลี้ยงดูให้ดีที่สุด จะส่งเสียให้เรียนหนังสือชั้นสูงๆ ให้มีการมีงานทำ อนาคตจะได้ไม่ลำบาก
"อยากจะขอความช่วยเหลือจากภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ขอสนับสนุนเงินฌาปนกิจศพลูกสาว เนื่องจากฐานะทางครอบครัวยากจน ขณะนี้ได้รับความช่วยเหลือจากชาวบ้านและญาติพี่น้องช่วยกันบริจาคเงินค่าทำศพ ส่วนที่เหลือจะเป็นทุนการศึกษาให้หลานที่กำพร้าแม่ต่อไป" นางตุ๋ย กล่าวด้วยความโศกเศร้า
ด้าน นางนกน้อย ฉัตรไทย อายุ 46 ปี น้าสาวของผู้เสียชีวิต ถึงกับร่ำไห้แทบขาดใจ เมื่อเห็นร่างอันไร้วิญญาณของหลานสาวที่รัก และเคยเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก นอนแน่นิ่งไร้ลมหายใจ โดยบอกว่า ตนเคยเลี้ยง น.ส.ปิยานุช ในสมัยเป็นเด็ก หลานสาวคนนี้นิสัยดีมาก ไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งกับใคร เป็นคนไม่ค่อยพูด ที่ผ่านมาเคยดูแต่ข่าวอาชญากรรมคนอื่น ไม่คิดว่าจะกลายมาเป็นคนใกล้ตัว ความเจ็บปวดครั้งนี้หากไม่เป็นครอบครัวใครก็ไม่รับรู้ได้ถึงความเสียใจอันเจ็บปวดแบบนี้ ไม่มีวันที่จะให้อภัยนายเจ อดีตหลานเขยอย่างเด็ดขาด.