เส้นตาย 30 วันให้รื้อ ‘แม่สลอง’ อีก 33 จุด
สั่งรีสอร์ต บ้านพักตากอากาศ 116 แห่งบนดอยม่อนแจ่ม ยุติการประกอบธุรกิจภายใน 30 วันหลังบุกรุกพื้นที่โครงการหลวงหนองหอยกว่า 363 ไร่ หากพบฝ่าฝืนต้องถูกดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด ขณะที่อธิบดีกรมป่าไม้เผยโครงการหลวงไม่ได้มีวัตถุประสงค์ทำเพื่อการค้า ต้องรื้อถอนทั้งหมดเพื่อฟื้นฟูสภาพพื้นที่ให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมก่อนจัดสรรให้เป็นที่ทำกินของราษฎรต่อไป ส่วนดอยแม่สลองถูกบุกรุกสร้างรีสอร์ต 33 แห่ง เสนอกรรมการจังหวัดลงดาบเด็ดขาด
ตรวจสอบการบุกรุกสร้างรีสอร์ตบนดอยม่อนแจ่มครั้งนี้ มีขึ้นเมื่อวันที่ 30 ม.ค. นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ เลขานุการ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้และหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า ชุดพยัคฆ์ไพร พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ศปป.4 กอ.รมน.) และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่ตรวจสอบการถือครองที่ดินของรีสอร์ตในเขตดอยม่อนแจ่ม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
จากการตรวจสอบพบมีการบุกรุกพื้นที่ในโครงการหลวงหนองหอยโดยก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ เพื่อเป็นสถานที่ให้บริการนักท่องเที่ยว อาทิ บ้านพักตากอากาศ รีสอร์ต ร้านค้า รวม 116 ราย เนื้อที่ที่ถูกบุกรุกรวมประมาณ 363-0- 06 ไร่ ภายหลังได้คัดแยกผู้ประกอบการรีสอร์ต บ้านพักพบว่าการบุกรุกมีทั้งนายทุนและนอมินีจากภายนอกพื้นที่จำนวน 12 ราย ประกอบด้วย ม่อนใจโฮมสเตย์ ม่อนแสนสิริจันทรา ม่อนดอยลอยฟ้า บ้านท่าจันทร์ รีสอร์ตหม่อนม่วง รีสอร์ตม่อนจ้อไร่นาย รีสอร์ตไม่มีชื่อ ม่อนพอเพียง ม่อนชาน แสงเหนือแคมป์ปิ้ง และภูเบิกฟ้า จึงดำเนินการจับกุมดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และ พ.ร.บ. ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507
...
นอกจากนี้ได้สั่งให้รีสอร์ตและบ้านพักที่มีการต่อเติมดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตต้องเร่งรื้อถอนอีก 11 แห่ง ประกอบด้วย ม่อนผาโค้ง ม่อนไอดิน นายลังพนมไพร (สวนลมชมดอย) สวนอีเดน ม่อนทอแสง ม่อนเหนือ 1 ม่อนม้ง ไร่ภูสวรรค์ บ้านภูหมอก ม่อนจาวดอย และม่อนสวนอิงดอย ภายใน 45 วัน
ขณะเดียวกัน ยังมีรีสอร์ตและบ้านพักที่ตรวจพบใหม่อีก 58 แห่ง อาทิ ม่อนขุนเขา ม่อนหมอกฟ้า ม่อนภูร่มแสง ภูวินคาเฟ่ ไร่ปลายฝัน บ้านต้นหญ้า เขาแสงจันทร์ เบสท์แลนด์ เดอะวิว ม่อนเพลินวิว ดอยติดดาว ภูแสงจันทร์ ฯลฯ ต้องดำเนินคดีทั้งหมด เพราะมีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร รวมทั้งการขออนุญาตซึ่งไม่สามารถทำได้อยู่แล้ว เนื่องจากเป็นพื้นที่ของโครงการหลวง
ขณะที่นายกฤตพล รชตเมธานนท์ ปลัดอำเภอ รักษาราชการแทน นอภ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เจ้าของพื้นที่ได้ออกประกาศอำเภอแม่ริมและติดประกาศในพื้นที่ เรื่องให้ผู้ประกอบธุรกิจที่พักที่มีค่าตอบแทน ซึ่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นไม่สามารถออกใบอนุญาตหรือรับแจ้งได้ตามกฎหมาย ระงับหรือยุติการประกอบธุรกิจภายใน 30 วัน หากพ้นกำหนดยังปรากฏว่ามีผู้ประกอบการที่พักอาศัยรายใดฝ่าฝืนจะถูกดำเนิน–การตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเฉียบขาด
ด้านนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า สถานประกอบการทั้ง 116 แห่งทำผิดกฎหมาย บุกรุกพื้นที่โครงการหลวง ซึ่งโครงการนี้ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ทำเพื่อการค้าจึงมอบให้นายสายพิน เปียสวน ผอ.ศูนย์ป่าไม้เชียงใหม่ ทำหนังสือถึง ผกก.สภ.แม่ริม พร้อมบันทึกการสำรวจแปลงพื้นที่และเอกสารที่เกี่ยวข้องจำนวน 116 แห่ง เพื่อให้มีการดำเนินการตามกฎหมายแล้วทั้งกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร กฎหมายว่าด้วยการโรงแรม พ.ร.บ.ผังเมือง พ.ร.บ.บุคคลต่างด้าว พ.ร.บ.ประกอบกิจการที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย พ.ร.บ.ฟอกเงิน การบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริมและที่ดินในเขตป่าไม้ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 เป็นต้น
“นอกจากนี้ยังสั่งการให้ชุดปฏิบัติการเร่งรัดขยายผลการตรวจสอบเพื่อบังคับใช้กฎหมายให้แล้วเสร็จตามแผนงานที่ได้วางไว้ และให้ดำเนินคดีให้ครอบคลุมทุกๆด้านที่เป็นการกระทำผิดตามกฎหมายเพื่อแก้ไขสภาพพื้นที่ให้กลับมาให้อยู่ในสภาพเดิมทันทีหลังจากแจ้งความดำเนินคดีแล้ว จากนั้นจะนำมาจัดที่ดินทำกินให้ราษฎรภายใต้มาตรการ คทช. หรือคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติต่อไป” นายอรรถพลกล่าว
ส่วน จ.เชียงราย นายมณู วงศ์สุนทร ปฏิรูปที่ดินจังหวัดเชียงราย สั่งการให้นายดำรง ไชยโย นิติกรชำนาญการพิเศษ ผอ.กลุ่มกฎหมายและฝ่ายช่าง ส.ป.ก.เชียงราย ร่วมกับตำรวจ ปทส. เข้าตรวจสอบโรงแรม รีสอร์ตและเกสต์เฮาส์บนดอยแม่สลอง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย หลังมีการร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงราย ว่า ได้บุกรุกพื้นที่ป่าสงวน ผลตรวจสอบพบมีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนรวม 33 แห่ง อาทิ อาหารคุ้มนายพล โรงแรมดอยหมอกดอกไม้ อยู่ดีโฮม ภูเมฆตะวัน หอมหมื่นลี้ ซือซือรีสอร์ต เป็นต้น นอกจากนี้ ยังอยู่ ระหว่างก่อสร้างอีก 5 แห่ง และไม่มีการขออนุญาตการก่อสร้างอาคารแต่อย่างใด และจะเสนอเรื่องให้คณะกรรมการที่นายประจญ ปรัชญสกุล ผวจ.เชียงราย แต่งตั้งขึ้นมา ประกอบด้วย ว่าที่ ร.ต.ณรงค์ โรจนโสทร รอง ผวจ.เชียงราย ส.ป.ก.เชียงราย ฝ่ายปกครอง ป่าไม้จังหวัด กอ.รมน. และ อบต.แม่สลองนอกพิจารณาสั่งสร้างรื้อถอน หรือดำเนินคดีกับผู้บุกรุกต่อไป
สำหรับดอยแม่สลองเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง จ.เชียงราย เมื่อปี 2516 บก.สส.ขอใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ และอนุญาตให้กลุ่มจีนฮ่อ กองพล 93 ใช้พื้นที่ทำการเกษตรครอบครัวละ 15 ไร่ และ ส.ป.ก. ได้ประกาศกฤษฎีกาปี 2537 ให้เป็นพื้นที่ของ ส.ป.ก. ต่อมาปี 2553 บก.สส.ได้ส่งมอบคืนที่ดินให้กรมป่าไม้ และปี 2554 ส.ป.ก.เชียงรายได้เข้ามารังวัดที่ดินให้เกษตรกรทำการเกษตรคนละ 50 ไร่ต่อครอบครัว และสร้างบ้านเรือนได้ 100 ตาราวา แต่ พื้นที่ 2 ข้างทางถนนเส้นหลักบนดอยแม่สลองกลับมีการก่อสร้างร้านอาหาร ภัตตาคาร โรงแรมและรีสอร์ตขนาดใหญ่จำนวนมาก รวมทั้งลักลอบสร้าง โรงแรมขนาดใหญ่ 3-4 ชั้น แฝงตัวอยู่ริมหน้าผาโดยไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบจับกุม
...