หนุ่มวัย 43 ปี คนจอมทอง เศร้าหนักแยกทางกับเมียสุดที่รัก ไม่พอยังหอบลูกทั้ง 2 ไปด้วย ไม่ยอมให้โอกาสได้เจอหน้า คิดสั้นชีวิตไร้ทางออก ใช้สายไฟผูกคอลาโลกคาหอพักที่เชียงใหม่
เมื่อเวลา 00.30 น. (13 ม.ค.) พ.ต.ท.ภัคพล อินดี สว.(สอบสวน) สภ.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุคนผูกคอตาย ภายในหอพักแห่งหนึ่ง ในซอยมหาโชค 12 ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ จึงรุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมแพทย์เวร และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิรวมใจเชียงใหม่ ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณชั้น 4 ห้อง 402 พบศพชาย 1 ราย เสียชีวิตโดยใช้สายไฟแขวนคอติดกับลูกบิดประตูภายในห้อง ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ช่วยกันปลดเชือก และนำร่างมาตรวจสอบ พบเอกสารบัตรประจำตัวผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นายวันศิลป์ ตุ้ยดง อายุ 43 ปี ชาวบ้าน ม.8 ต.สบเตี๊ยะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ สภาพศพสวมเสื้อยืดคอกลมสีเทา กางเกงขาสั้นสีดำ
นอกจากนี้ ภายในห้องยังพบจดหมายเขียนด้วยลายมือของผู้เสียชีวิตวางอยู่ ใจความระบุความในใจเกี่ยวกับกรณีที่ได้แยกทางกับแฟนสาว และระบุถึงลูกทั้ง 2 คน ที่ต้องแยกทางกัน ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บไว้เป็นหลักฐาน และบันทึกข้อมูลในที่เกิดเหตุก่อนจะได้ให้ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพออกจากที่เกิดเหตุในเวลาต่อมา
...
จากการสอบถาม นายพิพัฒน์ ลุงใจ อายุ 33 ปี เพื่อนของผู้เสียชีวิต ทราบว่า ผู้เสียชีวิตได้อาศัยอยู่ห้องพักดังกล่าวเพียงลำพัง โดยผู้เสียชีวิตนั้นมีพฤติกรรมชอบดื่มสุราอยู่บ่อยครั้ง โดยช่วงเช้าผู้เสียชีวิตได้ออกไปทำงานตามปกติ แล้วได้บอกกับเพื่อนร่วมงานว่า หากมาหาที่ห้องแล้วเรียกแต่ไม่ตอบ ให้พังประตูห้อง จากนั้นก็ไม่มีใครติดต่อกับผู้ตายได้ ตนก็ได้มาหาที่ห้องแล้วเคาะประตูเรียก แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงได้พังประตูห้องเพื่อเปิดเข้าไป ก็พบร่างของชายคนดังกล่าวเสียชีวิตแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสาเหตุการเสียชีวิตนั้น ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าผู้เสียชีวิตน่าจะเกิดความเครียดหรือน้อยใจ โดยจากการที่ระบุในจดหมายที่เขียนไว้นั้น ผู้เสียชีวิตได้แยกทางกับแฟนที่มีลูกด้วยกัน ประกอบกับทางฝ่ายหญิงไม่ยอมให้พบเจอลูกทั้ง 2 คน จึงทำให้ผู้เสียชีวิตเกิดความเครียด จึงคิดสั้นฆ่าตัวตายในที่สุด หลังการตรวจที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิรวมใจเชียงใหม่ นำศพผู้เสียชีวิตส่งไปยัง ภาควิชานิติเวช โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อทำการชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอีกครั้ง พร้อมทั้งจะได้ประสานทางญาติให้มารับศพผู้เสียชีวิตเพื่อนำร่างไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป.