สาววัย 25 ปี ป่วยซึมเศร้า เอาสายจูงสุนัขผูกคอลาโลกในบ้านพักที่เชียงใหม่ เผยป่วยมา 2 ปี ก่อนหน้าพยายามกินยาเกินขนาดเมื่อ 31 ธ.ค. แต่ส่ง รพ.ทัน แล้วออกจาก รพ.เพิ่งมาถึงบ้านก่อนเกิดเรื่องเศร้า
เมื่อวันที่ 3 ม.ค.63 ร.ต.อ.หญิง มนต์ริสสา บุญก้ำ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุคนแขวนคอฆ่าตัวตายภายในบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.แม่เหียะ อ.เมืองเชียงใหม่ หลังทราบเรื่องจึงรุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมกับทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิรวมใจเชียงใหม่ และทีมแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โดยเมื่อมาถึงบ้านหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบคนที่อาศัยอยู่ภายในบ้านยืนรอด้วยความตกใจและสีหน้าโศกเศร้าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยภายในห้องนอนชั้น 2 ของบ้านพบร่างของหญิง 1 ราย สวมเสื้อยืดสีเทา กางเกงเลคกิ้งลายดอก นอนหมดสติอยู่ ทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งปั๊มหัวใจเพื่อยื้อชีวิต แต่ไม่ทันการณ์ และเสียชีวิตลงในที่สุด
จากการตรวจสอบผู้เสียชีวิตทราบชื่อ คือ น.ส.เพ็ญพิชชา อุ่นเรือน อายุ 25 ปี ทำงานเป็นอดีต Translator หรือเจ้าหน้าที่แปลภาษาของบริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ในที่เกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่พบเชือกสีดำ ซึ่งเป็นเชือกที่ใช้เป็นสายจูงสุนัขผูกเป็นห่วงติดอยู่กับราวผ้าม่านภายในห้องนอนของผู้เสียชีวิต และจากการตรวจสอบชันสูตรศพของผู้เสียชีวิต ในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยบาดแผลของการถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด และขณะระหว่างที่ทางเจ้าหน้าที่เข้าตรวจชันสูตรศพของผู้เสียชีวิต ได้มีพ่อและแม่รวมถึงแฟนหนุ่มวัย 24 ปีของผู้เสียชีวิตนั่งเฝ้าอย่างไม่ห่าง พร้อมกับความโศกเศร้ากับการจากไปของลูกสาวในครั้งนี้
...
ด้านแฟนหนุ่มของผู้เสียชีวิตระบุว่า ผู้เสียชีวิตนั้นป่วยเป็นโรคซึมเศร้าได้ประมาณกว่า 2 ปีแล้ว และที่ผ่านมาได้เข้ารับการรักษามาโดยตลอด ทางพ่อและแม่รวมถึงตนก็ได้สลับกันมาดูแลอย่างเต็มที่ เพราะความเป็นห่วงและไม่อยากให้ผู้เสียชีวิตอยู่เพียงลำพัง เนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้เสียชีวิตก็เคยพยายามฆ่าตัวตายมาแล้วโดยการกินยาเกินขนาดเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.62 ที่ผ่านมา แต่ตนสามารถช่วยชีวิตไว้ได้ทัน และภายในวันเกิดเหตุแฟนของตนเพิ่งจะออกจากโรงพยาบาลมาได้ไม่กี่ชั่วโมง ก็ไม่คิดว่าจะคิดสั้นฆ่าตัวตาย
อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพเก็บข้อมูลไว้เป็นหลักฐาน เชื่อว่าผู้ตายแขวนคอเองเนื่องจากป่วยเป็นโรคซึมเศร้า จึงมอบศพให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิรวมใจเชียงใหม่นำร่างผู้เสียชีวิตส่งไปยังภาควิชานิติเวชโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อให้แพทย์ชันสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แน่ชัด ก่อนประสานญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป.