ผวจ.กำแพงเพชร นำข้าราชการ ประชาชน บวงสรวงดวงพระวิญญาณ พระยาวชิรปราการ เนื่องในวันปราบดาภิเษก ขึ้นครองราชย์เป็น "พระเจ้าตากสินมหาราช" 28 ธันวาคม

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 ธ.ค.62 ที่โรงเรียนวชิรปราการวิทยาคม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร นายเชาวลิตร แสงอุทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานในพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณ พระยาวชิรปราการ (พระเจ้าตากสินมหาราช) โดยมี ดร.สุทธิพงษ์ ธรรมสอน ผู้อำนวยการโรงเรียนวชิรปราการวิทยาคม ข้าราชการ ประชาชน คณะครู และนักเรียนโรงเรียนวชิรปราการวิทยาคม เข้าร่วมในพิธี

ดร.สุทธิพงษ์ ธรรมสอน ผู้อำนวยการโรงเรียนวชิรปราการวิทยาคม กล่าวว่า ในศุภดิถีวันที่ 28 ธันวาคม ของทุกปี ถือเป็นวันคล้ายวันปราบดาภิเษกของพระยาวชิรปราการ ขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แห่งกรุงธนบุรี สำหรับในปีนี้ ตรงกับวันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ.2562

"ข้าพระพุทธเจ้าเหล่าปวงประชา ได้ตั้งจิตศรัทธา มาร่วมสักการะบูชา ด้วยความกตัญญกตเวทิตา น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระเกียรติคุณ พระวีรกรรมอันหาญกล้าของพระองค์ท่านที่ทรงมีต่อประเทศชาติและปวงประชา ข้าพระพุทธเจ้าเหล่าปวงประชา ได้จัดพิธีบวงสรวงบูชา เพื่อขออัญเชิญเสด็จมารับเครื่องบวงสรวงบัดพลี พร้อมบายศรี อาหารคาวหวาน ผลไม้อันมีรสหอมหวานนานา พร้อมด้วยเครื่องบูชาทั้งหลาย อีกทั้งพวงมาลัย ดอกไม้ ที่ได้จัดตกแต่งประดับประดาให้สวยงามตระการตา แด่องค์พระยาวชิรปราการ เทพพรหมทุกชั้นฟ้าทั่วแผ่นดิน พระมหากษัตริยาธิราชเจ้า ผู้ทรงคุณอันประเสริฐต่อชาติบ้านเมืองทุกพระองค์ อีกทั้งดวงวิญญาณทหารทั้งหลายการบูชาของข้าพระพุทธเจ้าเหล่าปวงประชา ขอจอมภพในไตรโลกาจักรวาล จงประทานพรให้มั่งมีศรีสุข พ้นทุกข์ภัยพาล อยู่เย็นเป็นสุขอยู่ดีกินดี มีศักดิ์มีศรี มีความดีเพิ่มพูนขอประเทศชาติจงเจริญ เกิดธนสารสมบัติ ประจักษ์แน่ชัดด้วยเศรษฐกิจเพิ่มพูน ทุกชีวิตรุ่งเรืองเจริญพัฒนา ทุกคนในโลกาพบแต่ความสุข เทอญ"

...

สำหรับประวัติพระยาวชิรปราการ "พระยาวชิรปราการ มีพระนามเดิมว่า "สิน" พระราชสมภพเมื่อวันที่ 17 เมษายน พุทธศักราช 2277 เป็นบุตรของ "นายไหฮอง" และ "นางนกเอี้ยง" เมื่ออายุ 13 ปี เจ้าพระยาจักรีได้นำไปถวายตัวเป็นมหาดเล็ก ในสมเด็จพระธรรมราชาธิราชที่ 3 (สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ) ปีพุทธศักราช 2307 ในสมัยสมเด็จพระบรมราชาที่ 3 (สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์) ได้รับตำแหน่งเป็นข้าหลวง ขึ้นไปชำระความหัวเมืองฝ่ายเหนือ จนมีความชอบได้รับตำแหน่งเป็นหลวงยกบัตร เมืองตาก ช่วยงานพระยาตาก เมื่อพระยาตากถึงแก่กรรมก็โปรดให้เลื่อนเป็นพระยาตาก ปกครองเมืองตากปีพุทธศักราช 2307 พม่ายกกองทัพมาตีเมืองเพชรบุรี ทางกรุงศรีอยุธยาได้ให้พระยาตาก ไปรักษาเมืองเพชรบุรีไว้ จนตีพม่าแตกถอยไปทางด่านสิงขร ปีพุทธศักราช 2308 พม่ายกกองทัพมาตีไทยอีก พระยาตากได้ช่วยรักษาพระนครไว้ได้ จึงได้เลื่อนตำแหน่งเป็นพระยาวชิรปราการ เจ้าเมืองกำแพงเพชร"

ต่อมา เกิดศึกกับพม่าครั้งสำคัญ ถูกเรียกตัวมาป้องกันพระนคร จนถึงปีพุทธศักราช 2309 พระยาวชิรปราการเห็นว่า กรุงศรีอยุธยาต้องเสียกรุงแก่พม่าในครั้งนี้แน่ จึงรวบรวมสมัครพรรคพวกได้ประมาณ 500 คน ตีฝ่าวงล้อมออกจากค่าย เพื่อรวบรวมกำลังกลับมากู้กรุงศรีอยุธยาต่อไปปีพุทธศักราช 2310 พม่าก็ยกทัพเข้าตีพระนครได้ กรุงศรีอยุธยาจึงเสียแก่พม่า ในสมัยสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์

พระยาวชิรปราการได้จัดเตรียมกองทัพ เป็นเวลา 3 เดือน ก็ยกกองทัพเรือเข้าตีเมืองธนบุรีแตก แล้วเลยไปตีค่ายโพธิ์สามต้น ขับไล่พม่าออกไปพ้นแผ่นดินไทยสำเร็จ ในปีพุทธศักราช 2310 และในวันที่ 28 ธันวาคม พุทธศักราช 2311 พระยาวชิรปราการ ได้ปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์ ทรงพระนามว่า "สมเด็จพระบรมราชาที่ 4" หรือ "พระเจ้าตากสิน" และสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานี สมเด็จพระเจ้าตากสิน ทรงสวรรคตเมื่อปีพุทธศักราช 2325 สิริพระชนมายุได้ 48 พรรษา ทรงครองราชย์ทั้งสิ้น 15 ปี พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถ กอบกู้ประเทศชาติให้เป็นเอกราชตราบเท่าทุกวันนี้