จับแชร์ "แม่ปราณี" สามพี่น้องชาวม้ง กอดคอกันร้องไห้ พบพฤติกรรม ให้ลงทุน ร้อยลูกปัด รับงานไปทำ จ่ายคืนคล่องทั้งต้นทั้งดอก ช่วงหลังชักฝืด ก่อนหยุดจ่าย ค่าเสียหายเกือบ 50 ล้าน ลูกแชร์แห่ทวง เจอสวนกลับไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย..
เวลา 13.00 น.วันที่ 13 พ.ย. พ.ต.ท.เอนก ไชยวงศ์ รอง ผกก.สอบสวน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ พ.ต.ท.ภาดล กะนะลัย สว.สส.สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ได้จับกุมตัวนางปราณี แซ่โซ้ง อายุ 34 ปี พี่สาวคนโต เจ้าของ เท้าแชร์ลูกปัดแม่ปราณี อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 4 ต.กองแขก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ นางมณีรัตน์ แซ่ยะ อายุ 32 ปี น้องสาวคนกลาง อยู่บ้านเลขที่ 92 หมู่ 7 ต.บ้านหลวง อ.จอมทองจ.เชียงใหม่ และนางสาวยุพิน ใหม่พิมพ์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92 หมู่ 7 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 607/608/609/2562 ความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ในชั้นจับกุมผู้ต้องหา 2 คนแรก ให้การรับสารภาพ ส่วนนางสาวยุพิน ใหม่พิมพ์ ให้การปฏิเสธอ้างว่าถูกพี่สาวทั้งสองคนหลอกยืมสมุดบัญชีธนาคารไปใช้ในการโอนเงินเท่านั้น
...
ทั้งนี้ ก่อนจับกุมตำรวจได้สะกดรอยจากการใช้โทรศัพท์มือถือ ของผู้ต้องหาทั้ง 3 และจับกุมได้ ที่หน้าโบสถ์คริสตจักรแห่งหนึ่งย่านตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จากนั้นควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์เมืองเชียงใหม่ ภายหลังถูกจับ สามพี่น้อง ได้กอดกันร่ำไห้ ไม่นึกว่าจะมาถูกจับแบบนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ได้มีชาวเขาเผ่าม้งในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และใกล้เคียงกว่า 60 ราย เข้ามาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 ซึ่งเป็นคนรู้จักได้โพสต์ภาพโปรไฟล์ทาง Facebook ใช้ชื่อว่า "แม่ปราณี" และชื่ออื่นอีกหลายชื่อว่า รับสมัคร คนรับงานไปทำที่บ้าน เป็นประเภท ต่อลูกปัด เป็นรูปต่างๆ โดยผู้ที่จะรับงานไปทำนั้นจะต้องลงทุนซื้อลูกปัดเป็นเงิน 700 บาท และจะได้ผลตอบแทนกลับมา 300 บาท ภายใน 20 วัน จะได้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยรวม 1,000 บาท
"ลูกค้าจะได้ลูกปัดมา 1 กิโลกรัม เพื่อต่อเป็นรูปต่างๆ ตามออเดอร์ หลังจากที่ทำเสร็จ ให้นำลูกปัดไปส่งให้ ผู้ต้องหาทั้ง 3 ที่มาเช่าบ้านพัก อยู่ในพื้นที่ตำบลสุเทพ เป็นสถานที่แจกจ่ายงาน ก็จะได้เงินปันผลคืนมา ตอนแรก ผู้เสียหายลงเงินไปมาก ก็ได้เงินคืนครบทั้งต้นทั้งดอก จึงพากันระดมเงินจากญาติพี่น้อง บางคนนำที่ดินและรถยนต์ไปจำนอง เอาเงินมาร่วมลงทุน จากหลักหมื่นเพิ่มเป็นหลักแสนและเพิ่มเป็นหลักล้าน"
ต่อมา เมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ผู้ต้องหาทั้ง 3 กลับไม่ยอมคืนเงินต้นและดอก ผู้เสียหายส่วนมาก เป็นชาวเขาเผ่าม้งในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และใกล้เคียงถูกหลอกไปแล้ว กว่า 60 ราย จึงได้ทยอยกันมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนจนกระทั่ง มีการรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ ออกหมายจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้ง 3 คนในวันนี้
ด้านนางสาวหลิน (นามสมมติ) หนึ่งในผู้เสียหาย ที่มาขอเจรจากับผู้ต้องหาที่ถูกจับ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่ารู้จักกับผู้ต้องหาทั้งสามพี่น้อง เนื่องจากเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันและเป็นชาวเขาเผ่าม้งเหมือนกัน ไม่คิดว่าจะมาหลอกชนเผ่าเดียวกัน หลังจากที่ถูกตำรวจจับกุมได้จึงได้มาเจรจาเพื่อขอเงินคืนจากผู้ต้องหาสามพี่น้อง แต่กลับบอกว่า "ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย" ซึ่งพวกตนที่มา พูดคุยกับผู้ต้องหาในวันนี้เหมือนจะสิ้นหวังแล้ว หลายคนกำลังเดือดร้อนมากเพราะต้องนำทรัพย์สิน เช่นรถยนต์ไปจำนองจำนำเพื่อนำเงินมาลงทุนเพื่อหวัง จะได้ดอกเบี้ย แต่กลับสูญเงินไปทั้งหมดทำให้ครอบครัวเดือดร้อนมาก
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ผู้เสียหายทราบข่าวว่า นางปราณีพร้อมกับน้องสาวถูกจับทั้ง 3 คน ได้เดินทางมาติดต่อขอเยี่ยม ที่ห้องควบคุม บนโรงพักภูพิงค์ ในช่วงเที่ยงวันเดียวกันแต่ปรากฏว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 ไม่ยอมออกมาพูดคุยด้วย แม้ว่าจะมีการสื่อสารด้วยภาษาม้ง แต่ผู้ต้องหาก็ยืนการปฏิเสธไม่ยอมออกมาพบกับลูกแชร์ที่มาขอเงินคืนแต่อย่างใด ทางสิบเวรก็ไม่สามารถจะบังคับผู้ต้องหาได้เนื่องจากเป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่ไม่ต้องการออกมาพบกับผู้เสียหาย โดยตะโกนผ่านซี่ลูกกรงห้องขังบอกว่า ไม่มีเงินที่จะคืนให้
...
ด้าน พ.ต.ท.เอนก เผยว่า ผู้เสียหายในคดีนี้มาแจ้งความร้องทุกข์แล้ว กว่า 60 ราย คาดว่าจะมีมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ ผู้เสียหายที่ถูกหลอก ให้รีบมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน โดยด่วน พร้อมกับจะเร่งตรวจสอบหาทรัพย์สินที่ผู้ต้องหาหลอกลวงเอาจากเหยื่อที่มาร่วมลงทุน เพื่อติดตามอายัดทรัพย์ มาคืนให้กับผู้เสียหาย ต่อไป
สำหรับมูลค่าความเสียหาย เบื้องต้นประมาณ 50 ล้านบาท