เหนืออีสานคึกคักนักท่องเที่ยวแห่ สัมผัสอากาศหนาว ที่น้ำตกทีลอซู เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง จ.ตาก ทั้งนั่งรถยนต์และล่องแพเข้าน้ำตกกันไม่ขาดสาย โดยเฉพาะเส้นทางล่องแพผ่านน้ำตกทีลอจ่อ จะปรากฏรุ้งกินน้ำให้เห็นอย่างสวยสดงดงาม ส่วนดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ คลาคล่ำไปด้วยผู้คนหลังอุณหภูมิลดลงถึง 6 องศาเซลเซียส ส่วน จ.บึงกาฬ นักท่องเที่ยวแห่ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ “หินสามวาฬ” หินยักษ์ขนาดใหญ่ลักษณะคล้ายวาฬ 3 ตัวติดหน้าผาสูง จุดชมวิวที่สวยงามโดดเด่น ด้านอุตุฯเตือนประชาชนเหนืออีสานกลางระวังสุขภาพอากาศแปรปรวน
นักท่องเที่ยวแห่สัมผัสอากาศหนาวกันคึกคัก โดยเมื่อวันที่ 2 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่น้ำตกทีลอซู เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อ.อุ้มผาง จ.ตาก ช่วงเช้าอุณหภูมิวัดได้ 18 องศาเซลเซียส ทำให้นักท่องเที่ยวพากันไปสัมผัสอากาศพร้อมชมความงดงามของน้ำตกกันแน่นขนัดเพราะเป็นวันหยุด โดยเส้นทางเข้าน้ำตกมี 2 เส้นทางให้เลือกทั้งยานพาหนะที่กลุ่มสหกรณ์เดินรถจัดไว้ให้บริการใช้เวลาเดินทางราว 1.30 ชม. หรือเส้นทางล่องแพตามลำน้ำแม่กลอง จากอำเภออุ้มผาง ผ่านน้ำตกทีลอจ่อจะปรากฏรุ้งกินน้ำให้เห็นตอนเวลา 09.30-10.00 น.อย่างสวยสดงดงามก่อนไปขึ้นฝั่งที่หน่วยพิทักษ์ป่าผาเลือดใช้เวลา 3 ชม.แล้วนั่งรถยนต์ต่อไปอีก 45 นาที จากนั้นเดินเท้าเข้าน้ำตกทีลอซูระยะทางอีก 1.5 กม.ท่ามกลางธรรมชาติที่ร่มรื่นสวยงามยิ่งนัก
...
ส่วนดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ หลังอุณหภูมิเมื่อเช้าวันที่ 1 พ.ย.ลดลงเหลือ 6 องศาเซลเซียส ทำให้มีนักท่องเที่ยวแห่ขึ้นดอยบริเวณกิ่วแม่ปาน และยอดดอยจุดสูงสุดเพื่อสัมผัสอากาศหนาวจำนวนมากเช่นกัน ทั้งนี้ นายกริชสยาม คงสตรี หน.อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เผยว่า วันหยุดมีนักท่องเที่ยวขึ้นมาสัมผัสอากาศมากเป็นพิเศษ แม้อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้สร้างความผิดหวังมากนัก เพราะอุณหภูมิ 11 องศาเซลเซียส ถือว่ายังหนาวเย็น และมีทะเลหมอกให้เห็นยามเช้า ขณะที่เส้นทางธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ที่เปิดไปเมื่อวันที่ 1 พ.ย. นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ เดินเที่ยวชมธรรมชาติที่งดงามทั้งพืชพรรณไม้ดอก และสูดอากาศสดชื่นบริสุทธิ์ในยามเช้า
ขณะที่บรรยากาศในตัวเมืองเชียงใหม่ ถนนวัวลายเป็นถนนคนเดิน มีนักท่องเที่ยวเดินซื้อสินค้าโอทอปราคาถูก ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย ส่วนตามวัดต่างๆมีการประดับโคมยี่เป็งอย่างสวยงาม รับประเพณีลอยกระทง หรือยี่เป็งเชียงใหม่ โดยเฉพาะบริเวณบ้านบ่อสร้าง อ.สันกำแพง ถนนหลายสายประดับร่มและโคมยี่เป็งอย่างสวยงาม
ด้าน จ.บึงกาฬ นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปชมพระอาทิตย์ขึ้น สูดอากาศธรรมชาติในยามเช้าบริเวณ “หินสามวาฬ” จุดชมวิวขึ้นชื่อของจังหวัดภายในศูนย์จัดการกลุ่มป่าสงวนที่ 154 ป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู บ้านโนนทรายทอง หมู่ 8 ต.โคกก่อง อ.เมืองบึงกาฬ หรือเรียกสั้นๆว่า “ภูสิงห์” ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น 18 องศาเซลเซียส โดย “หินสามวาฬ” เป็นจุดชมวิวที่สวยงามโดดเด่น หินยักษ์ขนาดใหญ่มีลักษณะรูปร่างคล้ายวาฬ 3 ตัวติดหน้าผาสูง อยู่ด้านตะวันออกของศูนย์จัดการกลุ่มป่าสงวนที่ 154 โดยนักท่องเที่ยวสามารถยืนชมทัศนียภาพของป่าภูวัว ผ่านทิวทัศน์สองฝั่งโขงที่สวยงามของไทยและลาว ที่ตั้งอยู่เหนือสุดแดนอีสานของประเทศไทย และที่พลาดไม่ได้คือต้องถ่ายภาพเซลฟี่กับพระอาทิตย์ขึ้นเก็บไว้เป็นที่ระลึก และแชร์ความสวยงามลงในโลกโซเชียล
จ.กาฬสินธุ์ พื้นที่ทั้ง 18 อำเภอ พบอากาศหนาวเย็นลงอุณหภูมิพื้นราบต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส ส่วนยอดภูอุณหภูมิต่ำสุด 18 องศาเซลเซียส สภาพอากาศที่หนาวเย็นประกอบกับมีฝนโปรยปรายลงมาช่วงกลางคืน ทำให้กลางดึกจนถึงเช้า มีหมอกลงปกคลุมหนาจัดทั่วตัวเมืองกาฬสินธุ์ ถนนสายหลัก สายรอง มีหมอกลงจัดมาก ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้รถใช้ถนนต้องเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ โดยเฉพาะถนนบายพาสเลี่ยงเมืองกาฬสินธุ์สมเด็จ เป็นถนนเชื่อมต่อ จ.สกลนคร จ.มุกดาหาร และ จ.นครพนม มีหมอกลงจัดหลายแห่ง ผู้ที่ขับรถผ่านต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ ขณะที่นักท่องเที่ยวแห่สัมผัสอากาศหนาวตามแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมาก ทางจังหวัดประกาศเตือนชาวบ้านดูแลสุขภาพให้มีความอบอุ่น เพื่อป้องกันการเจ็บไข้ได้ป่วย
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศวันที่ 4- 8 พ.ย. ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศหนาวเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่งในบริเวณภาคเหนือ สำหรับภาคใต้จะมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่งตลอดช่วง คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และกลาง ควรดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศที่แปรปรวน ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง