ตำรวจอุตรดิตถ์ แถลงปิดคดี "ลุงหนุ่ย" ลุงวัย 65 ปี เผาตัวเองหมกปั๊มน้ำมันร้าง เครียด โรครุมเร้า ป่วยโรคซึมเศร้า ญาติไม่ติดใจเคลียร์ทุกประเด็น หลังดูกล้องวงจรปิดและผลผ่าพิสูจน์ DNA การเสียชีวิตพี่ชาย พร้อมขอรับศพนำไปประกอบพิธีเชิญวิญญาณกลับบ้าน
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 ต.ค.62 ที่ สภ.วังกะพี้ นางลดาวัลย์ เกษะศิริ อายุ 68 ปี พี่สาวคนโต และญาติ คือนางสาวกรรณิกา ไชยทิพย์ อายุ 64 ปี น้องสาว นายสมภพ ไชยทิพย์ น้องชาย อายุ 62 ปี ของนายกิ่งเพชร ชัยทิพย์ (ลุงหนุ่ย) อายุ 65 ปี บ้านเลขที่ 120 หมู่ 1 ต.บ้านขาม อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ ผู้เสียชีวิต ได้มาพบ ร.ค.อ.มานัส สุระจิต รอง.สว (สอบสวน) สภ.วังกะพี้ อ.เมืองอุตรดิตถ์ เพื่อขอทำเรื่องรับศพ นายกิ่งเพชร ชัยทิพย์ (ลุงหนุ่ย) ที่ รพ.อุตรดิตถ์ หลังจากดูกล้องวงจรปิดและผลผ่าพิสูจน์ DNA ไม่ติดใจในการเสียชีวิตของพี่ชายและรับศพพร้อมทำพิธีเชิญวิญญาณกลับบ้าน เพื่อไปณาปนกิจศพที่วัดสวนสว่าง บ้านนา ต.บ้านขาม อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ ในวันพรุ่งนี้ (23 ต.ค.)

ต่อมาเวลา 15.00 น. ที่ห้องประชุมตำรวจภูธร จ.อุตรดิตถ์ พล.ต.ต.พยูห์ ธนะศรีสืบวงศ์ ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ฉัฐวัขร วงศ์วาสน์ ผกก.สภ.วังกะพี้ ได้แถลงข่าวปิดคดี กรณีที่มีการเผาหมกในห้องน้ำปั๊มร้าง (ตรงข้ามป้อมตำรวจ) บ้านดงช้างดี ถนนสายอุตรดิตถ์-พิษณุโลก ทางหลวงหมายเลขที่ 11 หมู่ 8 ต.หาดกรวด อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 62 ที่ผ่านมา และได้พบรถรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นโรมีโอ สีดำ ทะเบียน 5 ฒ-2440 กทม.จอดทิ้งไว้ริมถนนสายดังกล่าวตรงข้ามกับปั๊มร้างที่เกิดเหตุ ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา
...

พล.ต.ต.พยูห์ กล่าวว่า ต้องขอบคุณทุกฝ่ายของตำรวจชุดสืบสวน สภ.วังกะพี้ ภ.จ.อุตรดิตถ์ และพลเมืองดีที่ช่วยกันหาข้อมูล พยานหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียง ไม่ว่าจะเป็นกล้องวงจรปิดจากหลายแหล่ง จนสามารถสรุปคดีนี้ได้โดยเร็ว โดยได้เชิญตัวผู้เกี่ยวข้องทั้งผู้เห็นศพคนแรกแล้วแจ้งตำรวจทราบ แม้กระทั่งญาติของผู้เสียชีวิตที่อยู่จังหวัดชัยภูมิ และจังหวัดลพบุรี และกรุงเทพฯ ทั้งพี่สาว น้องสาว น้องชาย ญาติๆ มาสอบปากคำว่าทางบ้านผู้เสียชีวิตมีปัญหาอะไรกับทางบ้านหรือไม่ และทางตำรวจก็ให้ทางญาติทั้งหมดมานั่งดูกล้องวงจรปิดว่า ผู้เสียชีวิต ก่อนจะมาเสียชีวิตนั้น ขับรถมากลับใครบ้าง และผลผ่าพิสูจน์ศพจาก รพ.พุทธชินราช จ.พิษณุโลก และผลการตรวจ DNA จากตัวของผู้ตายและในรถกระบะคันที่จอดทิ้งไว้ พร้อมเอา DNA ของญาติ ไปตรวจพิสูจน์ ที่พิสูจน์หลักฐาน ภาค 5 จ.ลำปาง ผลออกมาทุกอย่างตรงกันทั้งหมด และญาติไม่ได้ติดใจเอาความในการเสียชีวิตในครั้งนี้ ของนายกิ่งเพชร (ลุงหนุ่ย) ที่เผาตัวเองที่ปั๊มน้ำมันร้าง เพราะในตัว ยังได้พบลูกกุญแจรถคันที่ขับมาอยู่ในกระเป๋ากางเกง และเบาะรองนั่ง ใกล้กันยังพบ หัวไฟแช็กพลาสติก และแกลลอนน้ำมัน ขนาด 5 ลิตร 2 แกลลอนที่ไหม้บางส่วน จึงสรุปได้ว่า ฆ่าตัวเองด้วยการจุดเผาจนเสียชีวิต

"เพราะก่อนจะเสียชีวิต ได้โทรไปปรึกษากับ พี่สาวคนโต คือนางลดาวัลย์ เกษะศิริ ว่ามีเรื่องกลุ้มใจแต่ไม่บอกสาเหตุว่ากลุ้มใจเรื่องอะไร ต่อมาก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย จนมาเห็นทางสื่อต่างๆ ที่เสนอข่าว สรุปตามพยานหลักฐานประกอบกับสำนวนคดีแล้ว หรือกล้องวงจรปิดทุกที่ตามจุดต่างๆ ที่สามารถจเห็นได้ ผู้เสียชีวิต จะมาคนเดียวตลอด และในเวลาที่ก่อเหตุ เวลา 01.41 น.ของวันที่ 1 ตุลาคม 62 ได้เดินเข้าไปในปั๊มร้างแล้วจุดไฟเผาตัวเอง ไม่ได้ถูกฆาตกรรมด้วยการเผาหมกปั๊มร้าง เพื่ออำพรางแต่อย่างใด เพราะจากผ่าพิสูจน์ จาก รพ.พุทธชินราช จ.พิษณุโลก ไม่พบว่าตามร่างกายไม่พบส่วนในร่างกายถูกทำร้ายแต่อย่างใด ส่วนศพทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบศพให้ญาติกลับไปที่จังหวัดชัยภูมิ เพื่อทำพิธีทางศาสนาต่อไป"

...
นายเกียรติศักดิ์ เสียนขุนทด อายุ 30 บ้านเลขที่ 103/2 หมู่ 6 ต.ทุ่งยั้ง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ กล่าว่า ต้องขอแสดงความเสียใจกลับญาติของผู้เสียชีวิตด้วย หลังที่ได้นั่งสมาธิที่บ้านและเกิดนิมิตเห็นศพและลักษณะเห็นเท้าสีดำ 2 ข้าง ในห้องเล็กๆ พื้นขัดเงา สีเข้ม คล้ายสีน้ำเงิน บอกมาขอให้ช่วยเหลือที่ปั๊มน้ำมันร้างแห่งหนึ่ง ติดกับถนนใหญ่ สถานที่มีคนเข้าออกเป็นจำนวนมาก และได้แจ้งให้ตำรวจทราบจนมาทราบว่าคนตายเป็นใครนั้น ตนก็ได้ตระเวนออกทำบุญ สวดมนต์ ตักบาตร อุทิศส่วนกุศลมาตลอด กับยาย ตนก็สบายใจ จากนั้นตนก็นั่งสมาธิอีกก็ยังไม่สามารถสื่อสารอะไรได้อีกเลย ต้องขอบคุณสื่อทุกแขนงที่นำเสนอข่าวจนญาติของผู้เสียชีวิตทราบในครั้งนี้

นางลดาวัลย์ เกษะศิริ พี่สาวคนโต ที่มารับศพ กล่าวสั้นๆ ว่า ต้องขอบคุณ นายเกียรติศักดิ์ ที่นิมิตเห็นน้องชาย และแจ้งตำรวจให้ทราบ ต่อจากนั้นก็เดินทางกลับ จ.ชัยภูมิ.