เกษตรกรชาวนา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ขานรับนโยบายประกันราคาข้าวของรัฐบาล หันมาปลูกข้าวคุณภาพมากขึ้น คาดฤดูกาลผลิตข้าวนาปี 2562/2563 ราคาข้าวนาปีจะสูง เพราะผลผลิตออกไม่มาก จากภาวะฝนทิ้งช่วงวนาปี 2562/2563 ราคาข้าวนาปีจะสูง เพราะผลผลิตในภาคเหนือและอีสานออกไม่มาก จากภาวะฝนทิ้งช่วง
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2562 ผู้สื่อข่าวได้สอบถามความเห็นเกษตรกรชาวนาใน จ.พิษณุโลก นายประเสริฐ เพ็งท่าโรง กลุ่มทำนาข้าวปลอดสารพิษบ้านวังน้ำใส หมู่ 8 ต.แม่ระกา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ต่อนโยบายประกันราคาข้าวของรัฐบาลลุงตู่ ที่วานนี้ คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) มีมติเห็นชอบการประกันรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี โดยการประกันราคาข้าวในฤดูกาลผลิต 2562/2563 วงเงิน 2.1 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าจะมีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเข้าร่วมโครงการประมาณ 3.9 ล้านครัวเรือน โดยการรับประกันราคาข้าว 5 ชนิด ได้แก่ 1. ข้าวเจ้าที่ราคาตันละ 10,000 บาท 2. ข้าวหอมมะลิที่ราคาตันละ 15,000 บาท 3. ข้าวหอมปทุม 11,000 บาทต่อตัน 4. ข้าวหอมมะลินอกพื้นที่ 14,000 บาทต่อตัน และ 5. ข้าวเหนียว 12,000 บาทต่อตัน ทั้งนี้จะทำมติ ของ นบข.ในการประกันราคาข้าวเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโดยเร็ว
นายประเสริฐ กล่าวว่า ดีในที่รัฐบาลลุงตู่สมัยที่สองรู้สึกว่าดูแลเกษตรกรเป็นอย่างดี การออกมาตรการประกันราคาข้าวนาปีครั้งนี้จะช่วยให้เกษตรกรมีกำลังใจขึ้น ที่ดูแลผู้มีรายได้น้อย โดยเฉพาะเกษตรกร สำหรับนโยบายที่ออกมาในการประกันราคาข้าว 5 ชนิดนั้น มีราคาตั้งแต่ 10,000 ขึ้นไปถึง 15,000 ชาวนาที่ทำข้าวมีคุณภาพ หรือ ข้าวนาปี ก็จะได้เปรียบกว่าชาวนาที่ทำข้าวคุณภาพต่ำ หรือข้าวระยะสั้น คาดว่าในปี 2562-2563 ราคาข้าวนาปีน่าจะราคาสูงขึ้น เพราะข้าวในภาคเหนือและภาคอีสานผลผลิตจะออกมาน้อย หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบจากฝนทิ้งช่วง ชาวนาที่ทำข้าวนาปี ก็ต้องดูแลข้าวตนเองให้ดี ทั้งโรคพืชและแมลงศัตรูพืช เพราะจะได้ราคาดีแน่ โดยเฉพาะมีนโยบายประกันราคาข้าวออกมา
...
สำหรับข้าวนาปีที่ชาวนาทำนั้นอยู่ในช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคม-พฤศจิกายน โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิ ที่เป็นข้าวคุณภาพ ระยะเวลาจะปลูกนานกว่าข้าวอายุสั้นทั่วไป ที่ขณะนี้ข้าวอายุสั้นได้เก็บเกี่ยวกันแล้ว ราคาตันละ 6,000 กว่าบาท ส่วนข้าวนาปี ข้าวหอมมะลิ ข้าวหอมปทุมนั้น จะเก็บเกี่ยวช่วงเดือนพฤศจิกายน ราคาจะสูงกว่าข้าวอายุสั้น