สิงห์โตทองไรซ์โวย อคส.ค้างค่าเช่ากว่า 467 ล้านบาท แฉยังทิ้งข้าวในความดูแลเน่าเสียหายถึง 30 ล้านบาท พร้อมฝากนายกฯ และรัฐบาลใหม่จัดการ และให้ สตง.ตรวจสอบหาคนผิดมาลงโทษ

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 6 ส.ค. 62 นายมนต์ชัย รุ่งชาญชัย เจ้าของโกดังให้เช่าเก็บสินค้าในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล กล่าวว่า องค์การคลังสินค้าผิดสัญญาเช่าคลังสินค้า (อคส.) และค่าแรงกรรมกร เนื่องจากองค์การคลังสินค้า กระทรวงพาณิชย์ อนุมัติให้เช่าคลังสินค้าของบริษัท สิงห์โตทองไรซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2557 เป็นต้นมา เพื่อเก็บข้าวสารจากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล มาเก็บรักษาไว้ในคลังสินค้าของบริษัท สิงห์โตทองไรซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด จำนวน 18 หลัง จนทางบริษัทได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกำแพงเพชรถึง 2 ครั้ง ว่า อคส. ยังคงค้างค่าเช่าคลัง และมีสองโกดังที่ยังไม่ได้ทำสัญญาเช่าและไม่ต่อท้ายสัญญากรณีนำเข้ามาเก็บเพิ่มกับทางบริษัทรวมแล้วที่ทำสัญญาเช่ายังคงค้างอยู่ 350,508,928 บาท และในส่วนที่ยังไม่จัดทำสัญญาเช่าค้างอยู่อีก 117,115,057 บาท จึงสรุปว่ายังคงค้างค่าเช่าคลังสินค้าทั้งหมดรวม 467,623,985 บาท

...

 

เจ้าของโกดังคลังสินค้าบริษัท สิงโตทองไรซ์คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวต่อว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2562 พลตำรวจโทไกรบุญ ทรวดทรง ประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า ได้เชิญบริษัทเข้าร่วมประชุมกับผู้บริหารองค์การคลังสินค้าเพื่อหารือแก้ไขปัญหาดังกล่าว ที่องค์การคลังสินค้าชั้น 9 ที่ประชุมสรุประงับการระบายข้าวที่ยังคงค้างอยู่ในโกดังของบริษัท สิงห์โตทองไรซ์คอร์ปอเรชั่น จำกัด และในส่วนที่ไม่มีสัญญาเช่าคลังและบันทึกต่อท้ายสัญญาจนกว่าจะได้รับการแก้ไขปัญหา โดยในที่ประชุมได้ของดเว้นโกดังเก็บข้าวหลังที่ 2 ซึ่งมีข้าวอยู่จำนวน 16,000 ตัน เป็นข้าวที่คุณภาพอย่างดี สามารถระบายเป็นข้าวชนิดดีทั่วไปได้

ทางบริษัทเห็นว่าเป็นประโยชน์ของรัฐ และหากเก็บไว้ข้าวก็จะเสื่อมคุณภาพ จึงยอมให้ อคส.นำข้าวออกไปทางไหนได้ แต่ อคส.จะต้องทำบันทึกต่อท้ายสัญญา และชำระค่าเช่าคลังที่ค้างจ่ายทั้งหมดของโกดังหลังที่ 2 นี้ให้กับบริษัท จำนวน 19 ล้านบาท และได้ผู้ประมูลไปแล้วเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา จนขณะนี้ล่วงเลยมาแล้ว 15 วัน ปรากฏว่า ทางบริษัทยังคงไร้การติดต่อกับ อคส.ซึ่งคาดว่าจะถูกเบี้ยวเหมือนกับที่ไม่ยอมจ่ายค่าเช่าโกดังคลังสินค้าทั้งหมดให้กับทางบริษัทฯ ซึ่งต่างกับ อตก.ที่มีสัญญาณแบบเดียวกันแต่ อตก. ต่างกับ อคส. ที่จ่ายชำระค่าเช่าให้กับคลังสินค้าทั้งหมดโดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด 

นายมนต์ชัย กล่าวอีกว่า ปัญหาดังกล่าวเป็นความเดือดร้อนทางภาคเอกชน ที่หน่วยงานภาครัฐมีพฤติกรรม ไม่จ่ายค่าเช่าคลังสินค้า ไม่ทำสัญญาค่าโกดัง ไม่ต่อท้ายสัญญาเช่าในสัญญาหลักของโกดังที่นำเข้ามาเก็บเพิ่ม และยังลูกเล่นหลอกล่อให้บริษัทยินยอมปล่อยข้าวในโกดังที่ 2 โดยอ้างจะจ่ายค่าเช่าและต่อท้ายสัญญาให้สำหรับโกดังหลังนี้ จนปัจจุบันก็ยังคงเพิกเฉย และได้กล่าวถึงรักษาการผู้อำนวยการ อคส.คนปัจจุบัน ที่ไม่ยอมทำหน้าที่ ปล่อยให้ปัญหาสร้างความเดือดร้อนให้กับองค์กรและหน่วยงานภาคเอกชน เพียงรักษาการตำแหน่งเพื่อรอเกษียณอายุราชการเท่านั้น 

จากนั้น เจ้าของโกดังคลังสินค้าบริษัทสิงโตทองไรซ์ ได้พาสื่อมวลชนไปพิสูจน์กองข้าวเน่า ซึ่งเป็นข้าวที่อยู่ในความดูแลของ อคส.ที่ทาง อคส. ไม่นำเข้าโกดัง ส่งผลให้ข้าวเสียส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว ถูกปล่อยทิ้งให้ตากแดด ตากลม ตากฝน นานถึง 4 ปี ข้าวดังกล่าวเป็นทรัพย์สินของรัฐ และทางบริษัทฯ ได้ออกหนังสือหลายฉบับแจ้งให้ทราบ และมาแก้ไขนำเข้าเก็บในโกดัง และรักษาคุณภาพข้าว แต่เพิกเฉยจนข้าวเสียหายมีมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท

เจ้าของโกดังคลังสินค้าบริษัท สิงโตทองไรซ์คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวด้วยว่า กรณีดังกล่าวทางบริษัท สิงโตทองไรซ์คอร์ปอเรชั่น จำกัด ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากภาครัฐในยุคที่ผ่านมา ในวันนี้จึงฝากความหวังไว้กับรัฐบาลใหม่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และฝากถึงนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ช่วยเหลือภาคเอกชนและมาตรวจสอบพิสูจน์ได้ที่โกดังคลังสินค้าของบริษัท และขอให้ช่วยนำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบกองข้าวเน่า ที่ถูกทิ้งไว้ให้เสียหายว่าเป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานใด เพราะรัฐเป็นผู้เสียหาย ส่วนทางโรงสีก็ได้รับผลกระทบทางชื่อเสียง เนื่องจาก กองข้าวดังกล่าวนั้นถูกนำไปวิพากษ์วิจารณ์ว่าโรงสีทำข้าวของรัฐเน่าเสียหาย จึงฝากไปยัง สตง.ให้เข้ามาตรวจสอบเพื่อนำคนผิดมาลงโทษให้ได้. 

...