พิษณุโลกฝนทิ้งช่วง สวนกล้วยเจอภัยแล้งนาน บางวันไม่มีผลผลิตส่งขาย กระทบร้านกล้วยปิ้งขาดวัตถุดิบ ขณะที่ราคากล้วยพุ่งขึ้นสูงมาก กล้วยน้ำว้าหวีละ 20-40 บาท กล้วยหอมสูงสุดหวีละ 80 บาท

เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะกล้วยตามตลาดสดต่างๆ ในเขต อ.เมืองพิษณุโลก ช่วงนี้เป็นอีกปีหนึ่งที่ราคาขายปลีกกล้วยพุ่งขึ้นมาสูงมาก เนื่องจากเกษตรกรประสบปัญหาภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วงมานาน ทำให้ผลผลิตกล้วยออกมาน้อย ราคากล้วยน้ำว้าจำหน่ายเฉลี่ยหวีละ 20 - 40 บาท กล้วยไข่หวีละ 30 - 40 บาท กล้วยเล็บมือนางหวีละ 20 บาท กล้วยหอมจะราคาสูงที่สุด ตั้งแต่หวีละ 50 - 80 บาท ตามขนาดของผลกล้วย

แม่ค้าแทบทุกรายต่างบอกว่า ปีนี้เจอภัยแล้งยาวนาน ทำให้ผลผลิตกล้วยออกมาน้อย ราคาจึงขึ้นสูงกว่าทุกปี บางช่วงกล้วยน้ำว้าถึงกับขาดตลาด แต่ลูกค้าขาประจำก็ยังคงนิยมซื้อกล้วยไปรับประทาน รวมทั้งแม่ค้าขายกล้วยทอดและกล้วยปิ้ง

ขณะที่ พ่อค้าขายกล้วยทอด “ร้านกล้วยทอดนี่หว่า” เปิดเผยว่า บางช่วงกล้วยน้ำว้าขาดตลาด ปีนี้ราคาพุ่งสูงมาก หาซื้อกล้วยได้ในราคาหวีละ 15 บาท มาทอดขายให้ลูกค้าในราคาเดิม 13 ชิ้น 20 บาท แต่ขนาดของผลกล้วยจะเล็กลง ลูกค้าก็เข้าใจ

...

ส่วน นางจำลอง วงค์หงษา อายุ 100 ปี เจ้าของรถเข็นกล้วยทอด 100 ปี ที่จอดขายอยู่ย่านโรงพยาบาลรัตนเวชเด็ก ถนนพระองค์ดำ เขตเทศบาลนครพิษณุโลก เปิดเผยว่า ต้องหยุดร้านไป 3 วัน เพราะกล้วยน้ำว้าขาดตลาด ช่วงนี้ยังขายกล้วยทอดในราคาเดิม แม้ต้นทุนจะสูงขึ้น บางช่วงพุ่งไปถึงหวีละ 50 บาท ผลกล้วยจะขนาดเล็กลง แต่ลูกค้าก็เข้าใจดีว่าช่วงนี้กล้วยแพง

ส่วน นายสมศักดิ์ ดิษเกตุ อายุ 36 ปี ชาวตำบลหัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก เจ้าของร้านกล้วยปิ้ง 100 หวี เปิดเผยว่า ตนต้องใช้กล้วยปริมาณมากจึงไปซื้อที่สวนของเกษตรกรโดยตรง ช่วงนี้บางวันหาซื้อไม่ได้ทั้งที่ อ.บางกระทุ่ม และสวนเจ้าประจำที่ จ.สุโขทัย รวมทั้ง จ.อุตรดิตถ์ ตนก็จำเป็นต้องหยุดขายกล้วยปิ้ง ราคาซื้อจากสวนตอนนี้หวีละ 30 บาท และลูกจะเล็กลง เวลาปิ้งขายตนจำเป็นต้องลดจำนวนแต่ละไม้ลง 1 ลูก ทุกปีช่วงหน้าแล้งอย่างนี้กล้วยจะมีราคาสูงขึ้นเป็นปกติ แต่ปีนี้แล้งนานถึงกับขาดแคลนไปเลย ส่วนยอดการซื้อกล้วยปิ้งแต่ละวันไม่ได้ลดลง กลับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอาจเป็นเพราะกล้วยไม่ค่อยมี บางร้านไม่มีขาย พอร้านไหนมีขายก็พากันมาซื้อเป็นไปได้.