เมืองพะเยา ถือเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีชนชาติหลายเผ่าพันธุ์อาศัยอยู่กันมาแบบชาวล้านนา ตั้งแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบัน ทำให้แต่ละถิ่น แต่ละชนชาติของเผ่าพันธุ์ ได้มีการทำอาหารที่แตกต่างกันไป...
ข้าวแรมฟืน เป็นหนึ่งในอาหารยอดนิยมของชาวไทยลื้ออีกอย่างหนึ่ง
ปัจจุบันหากินได้ค่อนข้างยากมาก ที่อำเภอเชียงคำ มีแม่ค้ายืนหยัดทำขายมานานกว่า 55 ปี มีรสชาติที่กลมกล่อมจากส่วนผสมของการสรรค์สร้างสูตรข้าวแรมฟืนที่สืบทอดกันมายาวนาน...
แม่ค้าที่ว่าเขาคือ นางแสงจิ่ง แซ่จู วัย 72 ปี หรือ ยายจิ่ง เปิดร้านขายอยู่บริเวณซอย 9 ข้างโรงเรียนเชียงคำวิทยาคม เป็นต้นตำรับเก่าแก่ที่สุดของอำเภอเชียงคำ
ที่สำคัญยังคงมีรสชาติที่ดั้งเดิมไม่มีผิดเพี้ยน!!!
จึงเป็นที่นิยมของลูกค้าที่เดินทางมารับประทานข้าวแรมฟืนของยายจิ่งอย่างต่อเนื่อง
นางจิ่ง บอกว่า ขายข้าวแรมฟืนมาตั้งแต่สมัยเมื่อเป็นสาวรุ่นเพราะแม่เคยขายข้าวแรมฟืนมาก่อน จึงได้ทำการสืบทอดกันมา เริ่มตั้งแต่ราคา 25 สตางค์ จนถึงปัจจุบัน ราคาเพียงถ้วยละ 20 บาท
ส่วนประกอบของข้าวแรมฟืนนั้น จะมีส่วนผสมของแป้งที่นำมาโม่และปั่นเคี่ยวจนได้ที่ จากนั้นนำใส่ภาชนะเป็นสังกะสีหมักไว้หนึ่งคืนเพื่อให้แป้งเกาะตัวเป็นก้อน จากนั้นหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า
สำหรับส่วนผสมของข้าวแรมฟืนนั้น จะมีลักษณะการทำแบบน้ำยำ ประกอบด้วยน้ำเต้าหู้ยี้ ที่นำมาเคี่ยว น้ำอ้อยและน้ำผักกาดดอง
เมื่อนำส่วนผสมดังกล่าวใส่ลงไปแล้วก็จะนำน้ำขิงราดใส่ ตามด้วยถั่วป่นรวมทั้งพริกแห้งตำที่ทำการผัดจนหอมกรุ่นแล้วลงผสม...
มีลักษณะคล้ายกับก๋วยเตี๋ยว แต่จะมีรสชาติเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เป็นอาหารที่ชาวไทยลื้อนิยมรับประทานกันเป็นอย่างมาก แต่ละวันก็จะขายได้ 1-2 ร้อยชาม
...
นับเป็นอาหารยอดนิยมของชาวไทยลื้อที่สร้างรายได้ให้กับหญิงชราในวัย 72 ปี ได้เป็นอย่างดี!!!
จรัสพงษ์ เสมอเชื้อ