นศ.สาวปี 3 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ดิ่งสะพานข้ามน้ำกก พลเมืองดีพยายามเจรจาเหนื่ยวรั้งหวังจะเปลี่ยนใจ แต่ไม่สำเร็จ ร่างจมหายไปในแม่น้ำกก หน่วยกู้ภัย นักประดาน้ำเร่งค้นหา แต่ยังไม่พบร่าง

เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.62 พ.ต.ท.นิพล ระป้อม รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองเชียงราย ได้รับแจ้งเหตุจาก นายกันต์กฤต มะโน อายุ 33 ปี ว่า มีผู้กระโดดน้ำฆ่าตัวตายที่สะพานขัวพญามังราย เป็นสะพานข้ามแม่น้ำกก ที่เชื่อมระหว่าง ต.รอบเวียง และ ต.ริมกก เขตเทศบาลนครเชียงราย จึงไปยังที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากสะพานมากนัก พร้อมกับชุดนักประดาน้ำสมาคมศิริกรณ์เชียงรายบรรเทาสาธารณภัย 

เบื้องต้น นายกันต์กฤติ ให้การว่า ขณะขับรถผ่านขัวพญามังราย ได้เห็นมีผู้หญิงวัยกลางคนกำลังเจรจากับหญิงสาวที่แต่งชุดนักศึกษา ขึ้นไปนั่งบนขอบราวเหล็กกั้น ทำท่ากำลังจะกระโดดลงไป เมื่อถึงเชิงสะพาน จึงได้กลับรถลงไปจอดใต้สะพาน ได้เห็นศีรษะของนักศึกษาผลุบๆ โผล่ๆ ในน้ำชั่วครู่ ก็ได้จมน้ำหายไปต่อหน้าต่อตา ต่อมาทราบว่า หญิงสาวที่กระโดดลงไปในแม่น้ำกกคือ น.ส.กุลสตรี ขันแก้ว นักศึกษาปีที่ 3 คณะคุรุศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ ม.ราชภัฏเชียงราย อายุ 21 ปี ชาวบ้าน บ้านสันต้นกอก ต.แม่ข้าวต้ม อ.เมือง จ.เชียงราย

...

การให้การของ นายจีรภัทร์ ริยะสาร ซึ่งเป็นเพื่อนนักศึกษาที่ได้รับข้อความจาก น.ส.กุลสตรี ที่โพสต์ในไลน์กลุ่ม ว่าให้มารับรถ จยย.กลับคืนไปด้วย โดย น.ส.กุลสตรี บอกเพื่อนในกลุ่มว่า ขณะนั้นอยู่ที่ขัวพญามังราย นายจีรภัทร์ ก็ได้แจ้งญาติตามมาที่เกิดเหตุ สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า น.ส.กุลสตรี พักอาศัยอยู่กับ นางบุญปั๋น ขันแก้ว 67 ปี ซึ่งเป็นย่า เนื่องจากพ่อแม่หย่าร้างกัน โดย น.ส.กุลสตรี มีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และคาดว่าคงจะกดดันเรื่องการเรียนด้วย จึงเป็นสาเหตุให้คิดสั้น

น.ส.จารุพร แก้วจันทร์ ผู้เห็นเหตุการณ์ที่ได้พูดคุยกับ น.ส.กุลสตรี ขณะอยู่บนราวสะพาน ได้เล่าว่า ตนได้พยายามเกลี้ยกล่อมน้องแต่ไม่เป็นผลสำเร็จ โดยถามว่าน้องจะโดดจริงหรือ น้องบอกว่าจริง ส่วนเรื่องที่คิดสั้น น้องได้เล่าว่า ได้ทะเลาะกับแม่มา

ด้าน ส.ท.ณัฐพล ชัยศิลปิน ทหารจากค่ายเม็งรายมหาราช เพื่อนสนิทของผู้ตายได้บอกว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ได้แชตไลน์มาบอกว่าบ๊ายบายขอให้มีความสุขกันนะ ส่วนฉันไปก่อนนะ แล้วถ่ายรูปที่อยู่บนสะพานให้ดู จากนั้นตนเลยรีบออกมาตามหา แต่ไม่ทัน

จากนั้นมีสมาคมแสงธรรมสาธารณกุศลเชียงราย มูลนิธิสยามรวมใจเชียงราย นำอุปกรณ์กู้ภัยเป็นเรือยางและชุดประดาน้ำ มาร่วมออกค้นหาร่าง แต่กระแสน้ำไหลเชี่ยว และน้ำมีความกว้าง ทำให้การค้นหาลำบาก โดยเจ้าหน้าที่นำเรือออกไปตระเวณระยะห่างจากสะพานหลายร้อยเมตร และนักประดาน้ำลงดำบริเวณจุดใต้สะพานที่ น.ส.กุลสตรี กระโดด รวมทั้งจุดที่คาดว่าน้ำจะพัดพาร่างไป ซึ่งการค้นหาใช้เวลาติดต่อกันจนค่ำ ก็ยังไม่พบร่างของหญิงสาวคนดังกล่าว ทำให้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างค้นหากันอย่างต่อเนื่อง โดยมีทหารจากค่ายเม็งรายมหาราชไปสนับสนุนการค้นหาด้วย

กระทั่งเข้าสู่ช่วงค่ำมืด จึงได้มีการติดตั้งไฟส่องสว่างท่ามกลางการเอาใจช่วยของอาจารย์และเพื่อนนักศึกษา โดยตลอดเวลาตั้งแต่ช่วงเย็น มีย่าและญาติของ น.ส.กุลสตรี มาเฝ้าและร่ำไห้ และเพื่อนนักศึกษามาเฝ้ารอ รวมทั้งผู้ที่สนใจแวะมาดู และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการค้นหา.