สถานีพัฒนาที่ดินกำแพงเพชร ได้เข้าไปแก้ไขปัญหาให้เกษตรกรทั่วไปที่ทำการเกษตรแบบปลูกพืชเชิงเดี่ยว ซึ่งประสบปัญหาต้นทุนการผลิตสูง ดินมีระดับความอุดมสมบูรณ์ลดลงอย่างรวดเร็ว โดยน้อมนำเอาศาสตร์พระราชาเข้ามาประยุกต์เพื่อปรับรูปแบบการทำเกษตรของเกษตรกร
โดยการแก้ปัญหาเกษตรที่มีต้นทุนการผลิตสูง ได้จัดการพื้นที่เพื่อแก้ปัญหา โดยยึดหลักการเกษตรทฤษฎีใหม่ คือปรับพื้นที่ให้เป็นเป็นน้ำ 30 % เป็นที่นาข้าวหรือพืชไร่ 30 % สวนหรือสวนผสม 30% และเป็นสวนผัก เลี้ยงสัตว์ หรือที่อยู่อาศัย 10 % อีกรูปแบบหนึ่งก็คือเกษตรกรที่เริ่มต้นจากศูนย์คือปลูกพืชเชิงเดี่ยวอาศัยน้ำฝนอย่างเดียว สถานีพัฒนาที่ดินกำแพงเพชร จึงวางผังให้เกษตรกรปรับพื้นที่ เป็นน้ำ 30 % เป็นที่นาข้าวหรือพืชไร่ 30 % สวนหรือสวนผสม 30% และเป็นสวนผัก เลี้ยงสัตว์ และที่อยู่อาศัย 10 % ซึ่ง สถานีพัฒนาที่ดินกำแพงเพชรได้สร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรด้วยการให้เจ้าหน้าที่ลงไปถ่ายทอดเทคโนโลยีต่างๆของกรมพัฒนาที่ดินร่วมกับหมอดินอาสา เพื่อให้เกษตรกรเข้าใจการทำการเกษตรทฤษฎีใหม่ที่มีการปลูกพืชที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังให้คำแนะนำวิธีการลดการใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมี ให้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์และสารอินทรีย์ เพื่อลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มมูลค่าสินค้าที่ผลิต นอกจากนี้ยังสามารถการันตีแก่ผู้บริโภคได้ว่าในพื้นที่ของตนเองปลูกพืชที่ปลอดจากสารพิษแน่นอน

...
นายณัตชากร กัณฑ์กฤชกรณ์ ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดินกำแพงเพชร กล่าวว่า เกษตรกรในจ.กำแพงเพชร เริ่มสมัครเข้าร่วมโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ ตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งสถานีพัฒนาที่ดินกำแพงเพชร ดำเนินการตามนโยบายของกรมพัฒนาที่ดินและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเริ่มรับสมัครเกษตรกร พร้อมดำเนินการต่อเนื่องในปี 2560 มีเกษตรกรเข้าร่วมกว่า 700 ราย พัฒนาพื้นที่ของเกษตรกรมาเรื่อยๆจนถึงปี 2561 มีเกษตรกรมาสมัครเข้าร่วมโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่เพิ่มจนถึงปัจจุบันปี 2562 เพิ่มอีก 2,363 ราย รวมทั้งหมด 3,275 ราย ซึ่งโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ เป็นนโยบายหนึ่งของกระทรวงเกษตรฯ ที่กำหนดให้หน่วยงานราชการต่างๆ ของกระทรวงแบ่งพื้นที่รับผิดชอบ ในจ.กำแพงเพชร คือส่วนราชการแต่ละส่วนจัดแบ่งพื้นที่รับผิดชอบเป็นรายอำเภอ ในส่วนของสถานีพัฒนาที่ดินกำแพงเพชร รับผิดชอบอ.ขาณุวรลักษบุรี มีเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการตั้งแต่ปี 2559 -2562 จำนวน 326 ราย เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด เริ่มจากไม่มีอะไรเลย และร่วมกันพัฒนาพื้นที่เกษตรกรรมเรื่อยมาจนสามารถเข้าสู่หลักเกณฑ์ของเกษตรทฤษฎีใหม่ประมาณ 60 % กับอีกเกษตรกรกลุ่มหนึ่งคือ กลุ่มที่มีพื้นที่อยู่แล้วมาปรับให้เข้าหลักเกณฑ์ในการปรับแนวทาง เพื่อให้เข้าสู่ระบบของเกษตรทฤษฎีใหม่ จำนวน 40 %

สถานีพัฒนาที่ดินกำแพงเพชรได้กำหนดรูปแบบการทำงานคือ ปรับตัวเกษตรกรให้เข้าสู่หลักสูตรของโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ และพัฒนาขบวนการผลิตของเกษตรกรในกลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ เพื่อเข้าสู่การรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเมื่อเกษตรกรได้รับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์แล้ว ก็สามารถเพิ่มช่องทางการขายผลผลิตที่เหลือจากการบริโภคและแบ่งปันแล้ว กลายมาเป็นสินค้าเกษตรที่สามารถขายออกสู่ตลาดได้ และอยู่ในกลุ่มสินค้าคุณภาพ ซึ่งในการพัฒนาขั้นต่อไปจะเป็นเรื่องการบริหารจัดการพื้นที่และจัดการผลผลิตเชื่อมโยงสู่เส้นทางของระบบการตลาด

"การทำเกษตรทฤษฎีใหม่ไม่ใช่เรื่องยาก แต่เป็นสิ่งที่ดีเพราะนอกจากจะเป็นการช่วยเหลือครอบครัว และพัฒนาฟื้นฟูสุขภาพที่ดีของเกษตรกรแล้ว ยังเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่ช่วยลด ละ เลิกใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมี ซึ่งปัจจุบันเกษตรกรคุ้นเคยกับการใช้สารเคมีในการทำการเกษตร อีกทั้งยังพัฒนาให้เกษตรกรมีรายได้มากยิ่งขึ้น ให้สามารถใช้ชีวิตที่มีความพอเพียงในระดับเหลือกินเหลือใช้ มีความเป็นอยู่ที่ดีและยั่งยืนมั่นคง ตามแนวทางที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานไว้ให้เกษตรกรไทย.
...