กาแฟขี้ควาย (Buffalo coffee) จากอาจารย์ผู้ฝึกสอนผ่านกระบวนการคิดเป็น คิดนอกกรอบอย่างสร้างสรรค์ แก่นักเรียน นักศึกษา สู่การปั้นขี้ควายเป็นทองที่ทุกคนต้องร้องยี้
ที่สำคัญ เป็นกาแฟขี้ควาย รสชาติหอมนุ่มขมและเปรี้ยวแต่ไม่มาก กำลังโด่งดังระดับโลก!!!
นายสุรสิทธิ์ ปุสุรินทร์คำ หน.แผนกเทคโนโลยีศิลปกรรม วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงราย บอกถึงความเป็นมาของ กาแฟขี้ควาย ที่คิดค้น ทดลองค้นคว้า ลองผิดลองถูกมา 7 ปี อย่างอุตสาหะอดทน
กระทั่งประสบความสำเร็จเป็นกาแฟที่มีรสชาติแตกต่าง เกิดจากความคิดครั้งแรกต้องการเพิ่มมูลค่าสินค้าชุมชนโอทอป เริ่มจากการไปดูพืชเศรษฐกิจ สับปะรดภูแล นางแล ชา-กาแฟที่ดอยวาวี
พบมีการทำกาแฟขี้ชะมด กาแฟขี้ช้าง แม้ราคาจะสูงถึง กก.ละ 3-5 หมื่นบาทก็ยังเป็นที่นิยมของคอกาแฟ
เมื่อหันมาดูที่หนองหล่มปางเลี้ยงควาย บ้านห้วยน้ำราก ต.จันจว้า อ.แม่จัน เป็นหมู่บ้านทำการเกษตรดั้งเดิม มีทรัพยากรธรรมชาติสมบูรณ์ ควายที่เลี้ยงอาศัยหนองน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่เป็นแหล่งหากิน
จึงเกิดประกายความคิด ควายก็มีส่วนดีกินแต่ผักแต่หญ้า จึงชักชวนชาวบ้านเจ้าของควายมาร่วมทดลองนำเมล็ดกาแฟจากดอยช้าง มาผสมฝักจามจุรีกากน้ำตาล หมักให้มีรสหวานอมเปรี้ยว
เมื่อควายกินเมล็ดกาแฟเข้าท้องไป 2 วันจะถูกย่อยสลายขับถ่ายออกมา จึงนำปลายข้าวผสมขี้ควายให้ไก่จิกกินเหลือเมล็ดกาแฟก็จ้างชาวบ้านเก็บ กก.ละ 100 บาท
เอามาแกะเปลือกล้างเมือกนำไปผึ่งแห้งในสวนเกษตรอินทรีย์ ดูดซับกลิ่นและรสชาติก่อนนำไปคั่วให้มีความหอมละมุนเป็นผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม
เส้นทาง 7 ปีที่ผ่านมาไม่ได้โรยด้วยกุหลาบ เมื่อเริ่มต้นใหม่ๆไปพูดกับใครว่าเป็น กาแฟขี้ควาย มีแต่คนร้องยี้ไม่ให้ความสนใจเกิดความท้อใจ จากที่ไม่ได้ตั้งใจทำเป็นธุรกิจ ก็ต้องมาปรับตัวเดินหน้าต่อตามศาสตร์พระราชา
...
ขณะนี้นักธุรกิจจากประเทศเบลเยียม ไต้หวัน มาเจรจาเป็นตัวแทนนำกาแฟขี้ควายไปขายต่อ
นับเป็นความคิดนอกกรอบที่เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ได้อย่างน่าสนใจยิ่ง!!!
วีระชัย ปทุมชัย