แบบนี้ก็ได้เหรอ นายหน้ารับจำนำรถ สุดเหิม บุกเข้าไปตบคนไข้ ลูกหนี้ คาชามข้าวบนเตียงในโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง กลางเมืองเชียงใหม่ วงจรปิดจับภาพได้ ตร.เร่งล่าตัว 

วันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา ร.ต.ท.พีรวัฒน์ ไชยสมศรี รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้รับแจ้งว่า มีเหตุทำร้ายร่างกายกันภายใน ห้องคนไข้แผนกผู้ป่วยใน 1 ชั้น 1 ภายในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ย่านตำบลแม่เหียะ ในตัวเมืองเชียงใหม่ จึงรุดไปสอบสวน เมื่อไปถึงทางเจ้าหน้าที่ได้พา พนักงานสอบสวน ไปพบกับ นางชุลีพร พงษ์สกุลลิขิต อายุ 61 ปี ชาวบ้านหมู่ 7 ตำบลป่าแดด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ คนไข้ผู้เสียหาย นั่งรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่บนเตียงภายในห้องคนไข้ มีบาดแผล ถูกตบเข้าที่บริเวณเหนือแก้มขวาเป็นรอยฟกช้ำ ทางแพทย์และพยาบาลได้ช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้แล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอสอบสวนปากคำ 

จากการสอบสวน นางชุลีพร คนไข้รายนี้ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนได้มารักษาอาการป่วย จากโรคกรวยไตอักเสบที่โรงพยาบาลดังกล่าว เมื่อวานนี้ ทางแพทย์ได้รับตัวไว้รักษาและให้นอนใส่สายน้ำเกลือ เพื่อรอประเมินอาการ ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเที่ยง ขณะที่ตนกำลังนั่งรับประทานอาหารมื้อกลางวันอยู่บนเตียง และเป็นช่วงที่ทางโรงพยาบาล อนุญาตให้บุคคลภายนอกและญาติเข้ามาเยี่ยมผู้ป่วยได้ในช่วงเที่ยง ได้มี นางสาวสลิสา (ไม่ทราบนามสกุล) อายุประมาณ 40 ปีเศษ รูปร่างใหญ่ เป็นนายหน้าให้กับนายทุนรับจำนำ สวมเสื้อยืดคอกลมสีดำ กางเกงขายาวสีดำ เดินทางมาพร้อมกับชายรุ่นราวคราวเดียวกัน สวมเสื้อแจ็กเกตสีดำ สวมหมวกแก๊ปสีดำกางเกงยีนส์ รูปร่างผอม ได้เดินปะปนมาพร้อมกับญาติคนไข้ เข้ามาต่อว่าตนที่ได้เช่ารถจักรยานยนต์จากร้านรถเช่าแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ และให้นางสลิสานำรถไปจำนำไว้กับนายทุนเงินกู้รายหนึ่งในอำเภอสารภี

...

ต่อมา เจ้าของร้านรถเช่าได้ไปแจ้งตำรวจ สภ.แม่ปิง เมืองเชียงใหม่ ตามไปยึดเอารถจักรยานยนต์ที่นำไปจำนำนั้นมาจากนายทุน ทำให้นายทุนเงินกู้ไม่พอใจ หาว่าตนไปแจ้งตำรวจไปยึดรถจึงได้ส่งนางสลิสา ที่เป็นนายหน้ามาต่อว่าตน และข่มขู่ และให้ตนชดใช้เงินคืน ซึ่งตนได้ล้มป่วยลงไม่สามารถไปหาเงินมาใช้คืนให้ได้ ก็ถูกหญิงคนดังกล่าว ตามมาถึงโรงพยาบาลและใช้มือตบเข้าที่ใบหน้าด้านขวา 3 ที จนฟุบคาเตียง พร้อมกับข่มขู่ว่า รีบหาเงินมาให้ หากไม่หาเงินมาชดใช้นายทุน ก็จะพาสามีตามมากระทืบที่โรงพยาบาลซ้ำอีกครั้ง ขณะเกิดเหตุมีคนไข้นอนอยู่ในห้องพร้อมกับญาติอีกหลายคน หญิงคนดังกล่าวยังไม่เกรงกลัว หลังจากเกิดเหตุ ทางพยาบาลและผู้ช่วยได้เข้ามาห้ามแยกย้ายคู่กรณี ออกจากโรงพยาบาลไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขึ้นไปตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ของทางโรงพยาบาล ได้บันทึกภาพคนร้ายที่กำลังก่อเหตุได้อย่างชัดเจน ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งถือว่าการกระทำครั้งนี้เป็นการกระทำที่อุกอาจมาก แม้แต่ในโรงพยาบาลก็ยังกล้าลงมือ