แม่เหยื่อโรงเรียนติวเตอร์นักเรียนนายร้อยโหด เมืองปากน้ำโพ อีกราย รุดเข้าโรงพักแจ้งความ-ให้ข้อมูลเพิ่มเอาผิด เผยเคยส่งลูกมาเรียน โดนซ้อมอ่วมเกือบตาย ทนไม่ไหวรับตัวกลับบ้าน แถมโดนครูทวงค่าเสียหาย งัดสัญญาเงินกู้ค่าเรียน ขู่ชดใช้อีก
เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังข่าวการเสียชีวิตของ ด.ช.ฐปกร ทรัพย์สิน อายุ 15 ปี นักเรียนที่เข้าไปพักอาศัยและร่ำเรียนอยู่ที่สถาบันกวดวิชานักเรียนนายร้อยแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จากสาเหตุแพทย์ระบุว่า อวัยวะภายใน-นอก ของนักเรียนคนดังกล่าว ได้รับความบอบช้ำอย่างมาก ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุดทีมข่าวได้รับการติดต่อ จากแม่เด็กรายหนึ่ง ที่เคยส่งลูกไปเรียนในสถาบันฯดังกล่าว เปิดเผยว่า "ลูกตนอยู่ได้เพียง 5 วัน ก็ถูกรุมทำร้ายจากครูและเพื่อนนักเรียนด้วยกัน ซึ่งโดนทุกวันจนทนไม่ไหว จึงต้องปีนรั้วหนีออกม ช่วงที่หนีออกมาได้ปีนรั้วเข้าไปยังบ้านข้างเคียง ซึ่งเจ้าของบ้านนึกว่าเป็นขโมย จึงได้แจ้งยามหมู่บ้าน เมื่อสอบถามจึงทราบสาเหตุ จากนั้นจึงแจ้งสถาบันดังกล่าว ให้ครูมารับตัวกลับเข้าไป"
"ตอนที่ครูมารับตัวยังตบหน้าลูกชายอีก 2 ครั้ง จะตบอีก แต่ยามห้ามเอาไว้ และพาลูกตนกับสถาบันฯ ภายหลังลูกชายแจ้งให้ตนไปรับตัวกลับบ้าน ซึ่งตอนไปรับตัวลูกชายกลับบ้านนั้น ได้พาลูกไปตรวจร่างกายพบว่า มีรอยฟกช้ำทั่วร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณลำตัวจะมีมากกว่าที่อื่น จากการสอบถามพบว่า ถูกทำร้ายร่างกายโดยครูและเพื่อนที่สถาบันฯ จึงไม่ได้ให้ลูกกลับเข้าไปเรียนอีก" แม่ ระบุ
แม่ เปิดเผยต่อว่า "ตอนพาลูกไปสมัครเรียน มีค่าใช้จ่ายทั้งหมด 250,000 บาท ต่อการเรียน 1 ปี แต่แม่ขอผ่อนจ่าย ครูจึงให้แม่ทำสัญญาเงินกู้เป็นจำนวนเงิน 250,000 บาท โดยให้ผ่อนจ่ายเดือนละ 10,000 บาท เมื่อเด็กไม่ได้ไปเรียนแล้วทางสถาบันได้เก็บค่าเสียหายจำนวน 18,000 บาท ซึ่งอ้างว่าตอนที่ลูกชายปีนรั้วหนีออกมา เพื่อนบ้านของครูร้องเรียนให้ครูทำรั้ว เพราะไม่อยากให้เกิดกรณีเด็กปีนรั้วหนีอีกครูบอกกับแม่ว่าเป็นเพราะลูกชายแม่ทำให้ครูต้องเสียเงิน จ้างช่างมาทำรั้วอีก ครูจึงเรียกเก็บค่าทำรั้วกับแม่อีก 10,000 บาท ถ้าแม่ยอมจ่ายก็จะยกเลิกสัญญาเงินกู้ให้ แต่ถ้าไม่จ่ายจะให้ใช้หนี้จนครบ 250,000 บาท ซึ่งจริงๆแล้วแม่ไม่ได้ติดหนี้ โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาครูไลน์มาทวงว่า เมื่อไหร่จะจ่าย แม่จึงปรึกษากับครอบครัวว่าจริงๆแล้วเขาทำร้ายร่างกายลูกเราแล้ว เขายังไม่แสดงความรับผิดชอบ กลับโยนความผิดให้เด็กและยังจะมาเรียกร้องค่าใช้จ่ายสารพัดอีก ทั้งขู่เรื่องสัญญาเงินกู้ด้วย แม่คิดว่ามันไม่ยุติธรรม พอดีเมื่อเช้าแม่ดูข่าวแล้วเจอว่าน้องที่เรียนด้วยกันถูกซ้อมเสียชีวิต แม่จึงใช้โอกาสนี้ร้องเรียนขอความเป็นธรรมในครั้งนี้อีกเสียงหนึ่ง ตนเองได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ แล้ว"
...

จาการสอบถามเด็ก เบื้องต้นเล่าว่า "ตอนไปเรียนได้ 2 วันแรกโดนไม้เบสบอลตีที่ศรีษะ และถูกบังคับให้ซิทอัพ 200 ครั้ง แต่ทำได้แค่ 20 ครั้ง และขอร้องครูว่าทำไม่ไหวทำได้แค่นี้ หายใจไม่ออกครูกลับตอบว่าสำออย แล้วด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายสารพัดสารเพ พร้อมทั้งให้เพื่อนๆที่เรียนด้วยกันรุมกระทืบ ตนเองดิ้นหลุดออกมาก็ยังตามมาลากกลับเข้าไปกระทืบต่อในบ้าน และบอกพวกเพื่อนๆเด็กนักเรียนว่า ให้ลากเข้ามาเดี๋ยวใครมาเห็นตามแขนขามีรอยถลอก จากการโดนลากไปกับพื้นคอนกรีตจนเลือดซิบ ที่ดั้งจมูกมีรอยช้ำห้อเลือดจากการโดนชกเข้าที่ใบหน้า เวลาแม่ติดต่อไปจะเข้าไปพบลูกจะถูกครูกันไว้ทุกครั้งว่า ไม่ให้ไปเยี่ยม ครูก็ไม่ให้เด็กๆพกโทรศัพท์ ถ้าถูกทำร้ายแบบนี้ทุกวันคิดว่าถ้าอยู่ต่อต้องตายแน่จึงตัดสินใจปีนรั้วหนีตอนกลางคืน เมื่อได้เห็นข่าวเพื่อนจึงตัดสินใจแจ้งข้อมูล แม้จะยังกลัวว่าเวลาไปไหนจะโดนทำร้าย เพราะโดนขู่ไว้เยอะทำให้ทุกวันนี้ยังหวาดระแวง แต่เพื่อเอาคนผิดมาลงโทษตามกฏหมายก็เลยตัดสินใจให้ข้อมูลเพื่อเป็นประโยชน์"