ชาวบ้านหมู่ 4 ต.ทับผึ้ง อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย วอนรัฐช่วยซ่อมสะพานสลิงแขวนข้ามลำน้ำยม หลังชำรุดไม่ปลอดภัย ป้าวัย 61 เดินข้ามทะลุร่วงพื้นสาหัส ย้ำชาวบ้านจำเป็นต้องใช้ ไม่อยากเดินอ้อมกว่า 5 กม..
จากกรณีที่ในโลกโซเชียล โพสต์ถึงเหตุการณ์มีคนตกสะพานแขวน ประจำหมู่บ้านที่บริเวณหมู่ 9 ตำบลทับผึ้ง โดยผู้โพสต์กล่าวถึงความจำเป็นของชาวบ้านและคนเจ็บที่ต้องใช้สะพานแขวนไม้นี้ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวของเข้ามาดูแลความเดือดร้อนของประชาชนที่มีความจำเป็นต้องใช้สะพานแขวน แห่งนี้
สำหรับผู้บาดเจ็บคือ นางเนียร ลอบุญ อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116/1 หมู่ 4 ต.ทับผึ้ง อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ชาวบ้านที่มีความจำเป็นต้องใช้สะพานสลิง หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าสะพานแขวนข้ามแม่น้ำยม (สะพานเตว็ด ม.9) เดินทางไปทำงานที่ร้านทำปลาทูนึ่งทุกวัน แต่ในช่วงเช้าของวันที่ 30 พฤษภาคม 2562 นางเนียร ได้ใช้เส้นทางนี้ไปทำงานตามปกติ และเกิดพลัดตกสะพานเนื่องจากไม้สะพานผุ จนร่างนางเนียรตกกระแทกพื้นทรายสูงจากพื้นทรายประมาณ 20 เมตร นางเนียร เมื่อรู้สึกตัวได้ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลืออยู่พักใหญ่ จนชาวบ้านที่ผ่านมาเห็นและเข้าไปช่วยกันนำร่างนางเนียร ส่งโรงพยาบาลศรีสังวร เบื้องต้นพบแขนหักทั้งสองข้าง อวัยวะภายในบอบช้ำโดยเฉพาะตับ ญาติบอกว่ามีอาการตับฉีก และยังคงมีเลือดซึมที่นัยน์ตาขวา และยังคงต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอีกสักระยะ
...
นายมานะ สวัสดิ์รักษา กล่าวถึงในวันที่เกิดเหตุว่า ประมาณ 07.00 น. นางเนียรก็จะเดินข้ามสะพานมาเพื่อมารับจ้างล้างและควักไส้ปลาทูในฝั่ง ม. 9 ซึ่งก็เห็นเป็นประจำ โดยจะเลาะลงด้านข้างสะพานแล้วเดินเกาะลวดสลิงมาจนถึงอีกฝั่ง ก็จะเอาป้ายที่ติดห้ามผ่านลง และยกขึ้นเมื่อข้ามสะพานแล้ว แต่วันนั้นขณะข้ามมายังไม่ถึงครึ่งสะพาน นางเนียรไปเหยียบแผ่นไม้ที่ผุ และหล่นลงพื้นทรายก้นแม่น้ำ เมื่อตนเองทราบข่าวก็ได้ร่วมกับกู้ภัย อบต.ทับผึ้ง ช่วยกันแบกนางเนียรขึ้นมาอย่างทุลักทุเล และนางนงลักษณ์ สวัสดิ์รักษา ภรรยาก็ได้นำเรื่องอุบัติเหตุนี้เผยแพร่ทางเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อเป็นการเตือน รวมถึงร้องขอให้มีการซ่อมเพื่อให้ชาวบ้านได้ใช้สัญจรไปมา จนมีคนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง
ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.2562 นายจักรกฤษณ์ ไทยกล้า วิศวกรโยธาชำนาญการ หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการ สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จังหวัดสุโขทัย ร่วมกับนายสำเริง พรหมฉิม กำนันตำบลทับผึ้ง (เสื้อสีฟ้า) และนายบุญส่ง เมืองวัน ผอ.กองช่าง อบต.ทับผึ้ง ลงมาดูพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมกล่าวว่าสะพานนี้เป็นสะพานที่ถูกน้ำพาสวะมาติดทุกครั้งที่น้ำหลาก ทำให้เกิดแรงกระแทกชำรุด และสร้างมานานตั้งแต่ปี 2526 หากจะซ่อมคงต้องมีการออกแบบให้สอดคล้องกับโครงสร้างเดิม โดยการนำวัสดุที่ใกล้เคียงกันมาทดแทน และเสริมด้วยเหล็กให้มั่นคง อีกทั้งคงต้องเปลี่ยนสลิงใหม่ทั้งหมด เนื่องจากหมดสภาพการใช้งานแล้ว
...
สำหรับบริเวณนี้เป็นจุดเชื่อมสะพานข้ามระหว่างหมู่ 4 และหมู่ 9 ของ ต.ทับผึ้ง ที่สั่งปิดการใช้งานมาปีเศษแล้ว ชาวบ้านต้องอ้อมไปใช้เส้นทางหลักที่อ้อมไกลถึง 5 กิโลเมตร หากจะข้ามมาอีกฝั่ง ตัวนางเนียรเองก็เคยใช้จักรยานในทางหลักสายสี่เลน แต่ก็เกิดอุบัติเหตุมาแล้วครั้งหนึ่ง ขี่จักรยานยนต์ก็ไม่เป็น ข้ามมาหารายได้จากการควักไส้ปลาทูนึ่ง วันละ 200 บาท เพื่อนำไปใช้จ่ายในครอบครัวที่มีฐานะยากจน แต่ก็มาโชคไม่ดีเกิดเหตุตกสะพานจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด
เมื่อถามถึงความจำเป็นของสะพานนี้ ชาวบ้านทั้ง ม.4 และ ม.9 ต่างบอกว่ามีความจำเป็นต้องใช้ทางเพื่อข้ามไปวัด ไปโรงเรียน และเพื่อประกอบอาชีพ เพราะหากต้องอ้อมไปถนนใหญ่สาย 4 เลน จะใช้เวลาประมาณ 20 นาที ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร จึงอยากร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการซ่อมสะพานเพื่อให้ใช้งานได้ดังเดิม.