พี่น้องเจ้าของธุรกิจก๋วยเตี๋ยวเงินล้านที่พะเยาเปิดศึกสายเลือด น้องคนรองโร่ขึ้นโรงพัก ร้องทุกข์ ตร.ถูกพี่ใหญ่ ฮุบมรดกทรัพย์สินของกงสีไว้เพียงคนเดียวไม่ยอมแบ่งให้น้องๆ ยื้อกันมา 20 ปี...
จากกรณีวันที่ 28 พ.ค.2562 พ.ต.ท.โรจน์รวี รัศมีคำเวียงสา รรก. ผกก.สภ.เมืองพะเยา ได้รับแจ้งความร้องทุกข์ จากนายวิษณุ สกุลเจียมใจ อายุ 67 ปี ชาวบ้าน ตำบลท่าวังทอง อำเภอเมืองจังหวัดพะเยา ว่า เกิดปัญหาข้อพิพาทเกี่ยวกับเรื่องทรัพย์สินมรดกภายในครอบครัว โดยมีพี่ชายคนหนึ่ง เป็นผู้ครอบครองมรดกทั้งหมด เมื่อน้องๆ รวม 5 คนเข้าไปทวงถาม ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงมาตลอดร่วม 20 ปี ทำให้เกิดปัญหามาตลอด จึงพากันเข้าแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามขั้นตอนของกฎหมาย หลังรับแจ้ง ก็ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
โดยเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นข้อพิพาทในครอบครัวสกุลเจียมใจ เจ้าของธุรกิจใหญ่ก๋วยเตี๋ยว "อันเจริญ" ทางเดินของจังหวัดพะเยา ได้เกิดศึกแย่งชิงมรดกพันล้านของกิจการก๋วยเตี๋ยวอันเจริญ ธุรกิจก๋วยเตี๋ยวชื่อดังแห่งเมืองพะเยา และอสังหาริมทรัพย์ ที่ยืนหยัดมานานกว่า 70 ปี หลังจากที่น้องๆ ทั้ง 5 ราย ขอให้พี่คนโตแบ่งทรัพย์สินให้น้องๆ เป็นสัดส่วน แต่ก็บ่ายเบี่ยงจนน้องๆ ที่มีอายุต่ำสุดเกือบ 70 ปี แล้วไม่มีสินทรัพย์ในการต่อยอดให้ลูกหลาน และไม่สามารถขยายต่อธุรกิจได้ เนื่องจากสินทรัพย์ทั้งหมดเป็นชื่อที่พี่ชายครอบครองหมด จนล่าสุดบุกทวงถามแต่ก็ได้รับการปฏิเสธอีก
...
ทั้งที่กลุ่มน้องๆ ทุกคนต่างช่วยกันทำมาหากิน และฝากเงินไว้กับกงสี ที่มีพี่ชายดูแลและรับผิดชอบเนื่องจากมีความไว้วางใจ แต่ถึงระยะนี้น้องๆ จะเรียกร้องขอให้มีการแบ่งมรดกดังกล่าว แต่กลับบ่ายเบี่ยงและเดินหนีไม่ยอมพูดคุย จนตนเองและพี่น้องทั้ง 5 คนต้องเข้าร้องกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากพบหลักฐานบางอย่างที่พี่ชายคนโต ได้มีการปลอมแปลงเอกสารเพื่อทำธุรกรรมอำพรางหลายรายการ
นายวิษณุ สกุลเจียมใจ กล่าวว่า แต่เดิมนั้นธุรกิจก๋วยเตี๋ยวอันเจริญได้เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อ 70 ปีที่ผ่านมา โดยพี่น้องทุกคนได้ร่วมมือกันที่สร้างร้านก๋วยเตี๋ยว จนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วจังหวัดพะเยา รวมทั้งทั่วประเทศเป็นที่รู้จักกัน ซึ่งก๋วยเตี๋ยวอันเจริญนั้น จะมีการทำแบบครบวงจร โดยพี่น้องแต่ละคนก็ช่วยกันทำมาหากินจนประสบผลสำเร็จ และมีรายได้ที่มั่นคง โดยรายได้ทั้งหมดนั้นก็จะรวมกันโดยใช้ลักษณะเป็นกงสี ให้พี่ชายคนโตที่ทุกคนไว้วางใจ เป็นผู้ทำนิติกรรมต่างๆ เนื่องจากนับถือเสมือนพ่อ แต่ต่อมาพี่ชายคนโตได้แต่งงานและมีลูกหลานกลับพบว่ามีนิสัยเปลี่ยนไปด้วย ไม่ยอมแบ่งทรัพย์สินให้กับน้องๆ ตามที่ตกลงกันไว้และได้มีการทวงถามมาตลอดแต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยง จนต้องพึ่งตำรวจให้ช่วยไกล่เกลี่ย
นอกจากนี้ยังพบว่าพี่ชายคนโต ได้กระทำการที่ส่อไปในทางทุจริต โดยการนำเอกสารที่มีการปลอมแปลง และมีการโอนที่ดินบางส่วนที่เป็นทรัพย์สมบัติของตระกูลไปจำหน่าย จึงเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่เพื่อทำการไกล่เกลี่ยให้ดำเนินการตกลงกันในการแบ่งทรัพย์สมบัติในครั้งนี้ ให้กับน้องๆ ทั้ง 5 คนอย่างเป็นธรรม.