ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ พร้อมเครือข่ายภาคประชาชน-ผู้ป่วย กว่า 200 ชีวิต เดินรณรงค์ปลดกัญชาพ้นบัญชียาเสพติด เข้าสู่เขตนครสวรรค์ จัดเวทีสัมมนาเชิญวิทยากรให้ความรู้
ช่วงเช้าวันที่ 23 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บนเส้นทางหลวงหมายเลข 117 นครสวรรค์-พิษณุโลก นายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ จังหวัดสุพรรณบุรี ที่เป็นผู้ริเริ่มคิดค้นและแจกจ่ายน้ำมันกัญชาเพื่อรักษาโรคมะเร็ง พร้อมตัวแทน 11 องค์กร และเครือข่ายภาคประชาชน กว่า 200 คน เดินเท้าเพื่อผู้ป่วย-รณรงค์ถอดกัญชาพ้นบัญชียาเสพติด จากวัดโพธิ์ไทรงาม ตำบลโพธิ์ไทรงาม อำเภอบึงนาราง จังหวัดพิจิตร มุ่งหน้ามาถึงเขตจังหวัดนครสวรรค์ โดยมีปลายทางอยู่ที่วัดบางปลาหมอ จังหวัดสุพรรณบุรี รวมระยะทางกว่า 256 กิโลเมตร

วันนี้ เวลา 15.00 น. ขบวนฯ จะเดินมาถึงวัดหนองแพงพวย อำเภอเก้าเลี้ยว จังหวัดนครสวรรค์ ต่อจากนั้นจะขึ้นเวทีบรรยายพิเศษและเสวนาความรู้ เรื่องอาหาร สมุนไพร และกัญชากับการพึ่งตนเอง จนถึงเวลา 17.30 น. ก่อนพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวเดินทางต่อในวันรุ่งขึ้น
นายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ จังหวัดสุพรรณบุรี ได้ให้สัมภาษณ์ว่า หลักเกณฑ์ที่จะรับน้ำมันกัญชามี 2 ประเด็น คือ ถ้าทำให้ปลดล็อก แล้วทำให้ถูกกฎหมายก็จะมารับโดยตรงกับ อ.เดชา ได้เลย ส่วนประเด็นที่ 2 ถ้ายังไม่ปลดล็อก จะต้องขอเข้าร่วมกับคณะวิจัยที่ทำการวิจัยอยู่ถึงจะได้น้ำมันกัญชา แต่การวิจัยแต่ละสำนักก็จะมีการคัดกรองอย่างดี เพื่อไม่ให้มีพวกมิจฉาชีพเข้ามาเอาออกไป
...
ส่วนเรื่องของมีผู้รับน้ำมันกัญชาไปรักษาแล้วเกิดอาการวูบและคลื่นไส้ที่เป็นข่าวนั้น เกิดจากน้ำมันกัญชาน่าจะเข้มข้นเกินไป รับมากจนเกินไป จนเกิดอาการข้างเคียง

“น้ำมันกัญชาของผม มีความเข้มข้นอยู่ที่ 3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่น้ำมันกัญชาที่ขายอยู่ในใต้ดินมีความเข้มข้นสูงกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ และจะบอกให้ทานเยอะจะได้หายไวๆ ส่วนของผมให้ทานแค่พอหายจากอาการเจ็บปวด ไม่ให้ทานมากจนเกินขีดที่รับได้ของแต่ละคน โดยจะให้ทานก่อนนอนเท่านั้น เพื่อที่จะให้หลับสบาย หรือทานในช่วงเวลาปวด พอหายปวดก็ให้หยุดทาน ขอแนะนำว่าจะต้องหาแหล่งที่เชื่อถือได้ว่าน้ำมันกัญชาเข็มข้นเท่าไหร่ ใช้จนกว่าหมดอาการแล้วให้หยุดใช้ กินเพื่อรักษาเท่านั้น โดยการกินก่อนนอนเท่านั้น กินแค่พอหลับ พอหลับดีแล้วก็หยุดกิน ส่วนน้ำมันกัญชานั้นยังไม่ได้ข้อจำกัดของการรักษา” อ.เดชา กล่าว.