ไฟไหม้ "ดอยหลวงเชียงดาว" ทอดยาวไปจนเกือบถึงยอดดอย นานเป็นอาทิตย์ ยังดับไม่ได้ เนื่องจากเป็นเขาสูงชัน กองทัพภาค 3 นำเฮลิคอปเตอร์ขนน้ำช่วยดับ
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 1 เม.ย. 62 ที่กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า สโมสร ค่ายกาวิละ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พลตรีบัญชา ดุริยพันธ์ รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า กล่าวว่า ทางกองทัพบกได้จัดส่งอากาศยานของกองทัพอากาศและกองทัพบกมาเสริมกำลังในการโปรยน้ำ เพิ่มความชื้นในอากาศ และทิ้งน้ำดับไฟป่า
โดยเช้าวันนี้มีแผนที่จะนำเฮลิคอปเตอร์ เอ็มไอ 17 จำนวน 2 ลำ บินบรรทุกน้ำไปดับไฟป่าในพื้นที่ ดอยหลวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ พร้อมกับกำลังพลภาคพื้นดินไปสนับสนุนเจ้าหน้าที่ชุดดับไฟป่าในพื้นที่ หลังจากที่มีสื่อออนไลน์แชร์ภาพไฟไหม้ป่าดอยหลวงเชียงดาวเสียหายเป็นจำนวนมาก ขณะนี้กำลังตรวจเช็กกับนายอำเภอเชียงดาว และจะเริ่มวางแผนเข้าไปดับไฟกันในช่วงสายของวันนี้
ทั้งนี้ พบว่ามีการแชร์ภาพไฟไหม้ดอยหลวงเชียงดาวเป็นวงกว้าง จากผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Pijakkana Meechaiudomdaj" โดยระบุข้อความว่า "ค่ำคืนนี้ฉันจะหลับตาลงได้อย่างไร ดอยหลวงเชียงดาวที่ชาวต่างชาติและคนไทยจำนวนมากหลงใหลในความสวยงามของธรรมชาติ เป็นดอยสูงอันดับต้นๆ ของไทย เป็นป่าที่สมบูรณ์ มีพันธุ์ไม้นานาชนิดให้ศึกษาและเรียนรู้ มีสัตว์ป่าสงวนที่เริ่มหายาก แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นภูเขาไฟ ทอดยาวไปถึงยอดดอย สัตว์ป่าน้อยใหญ่ที่วิ่งหนีไม่ทันคงสูญสิ้นชีวิต เจ็บปวดที่ต้องทนเห็นเปลวไฟเผาผลาญป่าและชีวิตสัตว์ป่า เริ่มมีอาการไอและแสบหน้าอก" ซึ่งต่อมามีการแชร์ภาพดังกล่าวออกไปเป็นจำนวนมาก และส่วนหนึ่งเข้ามาแสดงความเห็นให้กำลังใจคนในพื้นที่
...
ต่อมาทางผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นายสมหวัง เรืองนิวัติศัย อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ที่ดูแลพื้นที่ดังกล่าว ทราบว่า ไฟป่าได้ไหม้ดอยหลวงเชียงดาว ซึ่งเป็นดอยที่สูงอันดับ 2 ของประเทศไทย มาเกือบอาทิตย์แล้ว ยังไม่สามารถดับได้ โดยจุดพื้นที่ไฟไหม้ป่านั้นได้ลุกลามจากป่าด้านล่างขึ้นไป ตอนนี้ไฟยังไปหยุดอยู่ที่หน้าผา ก่อนถึงยอดดอยหลวง แต่ไฟป่ายังไปไม่ถึงยอดดอยหลวง เนื่องจากมีหน้าผามากั้นไว้ แต่การการเข้าไปดับไฟเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากเป็นภูเขาสูงชัน วันนี้จะมีวางแผนนำเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพย์บินเข้าไปดับไฟอีกครั้ง
ด้าน นายคมสัน สุวรรณอำภา รอง ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ทางจังหวัดเชียงใหม่ได้จัดสถานที่ห้องประชุม อาคารอเนกประสงค์ธนาคารแห่งประเทศไทย ถนนโชตนา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ไว้ต้อนรับการเดินทางมาประชุมของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางมาประชุมร่วมกับ 9 จังหวัดเพื่อวางแผนแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า ในช่วงเช้าวันที่ 2 เม.ย.
จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะไปดูการฉีดพ่นน้ำที่ข่วงประตูท่าแพ และเดินทางไปวัดบุปผาราม ถ.ท่าแพ ใกล้ๆนั้น ก่อนที่จะเดินทางกลับ.
ที่มา เฟซบุ๊ก Pijakkana Meechaiudomdaj