ตำรวจเชียงใหม่ มีเรื่องกับคนเมา มีคนเห็นว่าชกไป 1 ที คู่กรณีถึงร่วงลงไปกอง แล้วไม่ฟื้นอีกเลย ตายอยู่หน้าห้องน้ำ ตำรวจตามจับตัวได้ อ้างแค่ผลักป้องกันตัว แต่ตรวจแอลกอฮอล์ พบสูงถึง 139 มก.   

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 27 มี.ค. ที่วัดกู่คำ ต.วัดเกต อ.เมืองเชียงใหม่ ร.ต.อ.วิเชียร ปากกล้า รอง สว.สอบสวน สภ.แม่ปิงเมืองเชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนพบศพชายลักษณะคล้ายกับถูกทำร้ายร่างกายนอนเสียชีวิตอยู่ภายในวัด จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนแพทย์ภาควิชานิติเวช รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ และกู้ภัยมูลนิธิรวมใจเชียงใหม่

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำของทางวัด พบศพชาย 1 ราย อายุประมาณ 50-60 ปี ไม่ทราบชื่อและนามสกุล นอนเสียชีวิตสภาพศพ สวมเสื้อเชิ้ตคอปกแขนสั้นสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้นสีฟ้า สวมรองเท้าแตะ มีบาดแผลฟกช้ำตามบริเวณใบหน้าและมีเลือดไหล ใกล้กับศพพบกระป๋องเบียร์ที่ยังไม่ได้เปิดและขวดพลาสติกที่นำมาตัดครึ่งเป็นแก้วสำหรับดื่มเบียร์ ขณะนั้นทราบว่าคู่กรณีที่ก่อเหตุซึ่งเป็นพระ ได้เดินออกจากวัดและหลบหนีไป ส่วนผู้ตายเป็นคนเร่ร่อนไม่มีที่พักเป็นหลักแหล่ง 

...

จากการสอบถามพระลูกวัด ทราบว่า วัดอยู่ติดกับสถานีขนส่ง จึงทำให้มีคนสัญจรและคนเดินทางเข้ามาพัก รวมถึงพระที่ก่อเหตุนั้นก็เป็นพระต่างถิ่นไม่ได้จำวัดอยู่ในวัดแห่งนี้ นานๆ จะมาพักที่วัด และที่ผ่านมาก็ไม่เคยพูดคุยกับพระรูปดังกล่าว โดยช่วงเช้านี้พระรูปดังกล่าวได้เดินวนเวียนอยู่ภายในวัด จนกระทั่งหลังเกิดเหตุจึงได้หลบหนีไป 

นายยอนหลู่ บุตรทร อายุ 25 ปี พยานที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุนั้นชายที่เสียชีวิตได้เดินไปมาในวัด โดยมีอาการมึนเมาสุรา จนกระทั่งในเวลาต่อมาได้มาเจอกับพระที่ก่อเหตุ มีการพูดคุยกัน จากนั้นตนก็เห็นพระรูปดังกล่าวต่อยชายคนที่เสียชีวิตล้มลง แล้วก็เดินออกจากวัดไปทางสถานีอาเขตที่อยู่ใกล้ๆ ก่อนจะนั่งวินมอเตอร์ไซค์หลบหนีไป และเห็นว่าชายคนที่ล้มลงไปหมดสติไม่ตื่น จึงพยายามเรียกหาคนช่วย ซึ่งก็ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา 

หลังจากเกิดเหตุประมาณเพียงไม่ถึง 1 ชั่วโมง เวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.แม่ปิง เมืองเชียงใหม่ สามารถติดตามตัวพระที่ก่อเหตุได้ ขณะกำลังเดินอยู่บริเวณถนนหน้าค่ายกาวิละ ซึ่งคาดว่าพระรูปดังกล่าวน่าจะนั่งวินมอเตอร์ไซค์ไปลงจุดดังกล่าวที่พบตัว จากการสอบสวนเบื้องต้นทรบชื่อ พระวิเชียร หงษ์ทอง อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 215 ม.14 ต.ตาคลี อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ พร้อมด้วยอุปกรณ์บาตรพระ ย่ามพระภายในมียาหอม อาหาร และน้ำดื่ม จากนั้นได้นำตัวกลับมาที่จุดเกิดเหตุ

พระวิเชียร ได้ให้การเบื้องต้นว่า ได้เดินทางจากภาคกลางและมาที่วัดได้เพียง 2 วัน จนมาพบกับชายคนที่เสียชีวิต ซึ่งมีอาการมึนเมา เดินเข้ามาหา จึงได้พยายามพูดคุยแต่ชายคนดังกล่าวก็ไม่ฟังและยังเดินเข้ามาคล้ายจะทำร้าย จึงได้ป้องกันตัวด้วยการผลักชายคนดังกล่าวออกไปจนกระทั่งล้มลงและหมดสติ จากนั้นได้เดินออกมาจากวัด กระทั่งตำรวจตามมาควบคุมตัว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ของพระวิเชียร พบว่ามีแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดสูงถึง 139 มิลลิกรัม ซึ่งเจ้าตัวนั้น ก็ปฏิเสธเป็นพัลวันว่าไม่ได้ดื่มเหล้า

ด้าน พ.ต.อ.นฤบาล จิตทยานันท์ ผกก.สภ.แม่ปิง เผยว่า ผู้ต้องหายังให้การที่ไม่ชัดเจน ลักษณะภาคเสธ โดยอ้างว่าได้ป้องกันตัวเอง เจ้าหน้าที่กำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานที่ชัดเจน ซึ่งน่าจะใช้เวลาไม่นาน เบื้องต้นตอนนี้ได้ตั้งข้อหา “ทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” ตามมาตรา 290 ส่วนศพผู้ตายได้ส่งให้แพทยท์ภาควิชานิติเวช รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าพิสูจน์หาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป