หมอกควัน 8 จ.ภาคเหนือยังอ่วม เชียงใหม่ฝุ่น PM2.5 ติดอันดับ 1โลกวันที่ 2

8 จังหวัดภาคเหนือสถานการณ์หมอกควันยังอ่วม ด้านเมืองเชียงใหม่เผชิญปัญหาพิษฝุ่น PM 2.5 ติดอันดับ 1 ของโลกติดต่อกัน 2 วัน ขณะที่ยอดคนป่วยทะลุ 2 หมื่นรายแล้ว...

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 13 มี.ค. 2562 สถานการณ์หมอกควันในจังหวัดเชียงใหม่ คุณภาพอากาศยังวิกฤติหนัก ส่วนค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 สูงเกินมาตรฐาน ขณะที่เว็บไซต์ AirVisual ได้จัดอันดับดัชนีคุณภาพอากาศ ตามเมืองท่องเที่ยวทั่วโลกล่าสุดประจำวันที่ 13 มี.ค. (เวลา 07.51 น.) ที่ผ่านมา พบว่า เชียงใหม่ติดอยู่ในอันดับ 1 เมืองที่มีมลพิษมากที่สุด ติดต่อกันเป็นวันที่ 2 โดยค่า AQI หรือ Air Quality Index โดยรวมอยู่ที่ 197 อันดับ 2 รองลงมาคือ เมืองละฮอร์ ประเทศปากีสถาน 179 และอันดับ 3 เมืองกรุงธากา ประเทศบังกลาเทศ 176 

ส่วนเว็บไซต์ของกรมควบคุมมลพิษ รายงาน สถานการณ์คุณภาพอากาศ พื้นที่ภาคเหนือ แบบเฉลี่ย ราย 24 ช.ม.คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ สารมลพิษทางอากาศที่ตรวจพบเกินมาตรฐานได้แก่ ฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ตรวจพบค่าระหว่าง 67 - 166 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (g/m3) เกินมาตรฐานที่บริเวณ ต.แม่ปะ อ.แม่สอด ตาก, ต.ในเวียง อ.เมือง น่าน, ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ น่าน, ต.บ้านต๋อม อ.เมือง พะเยา, ต.พระบาท อ.เมือง ลำปาง, ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ ลำปาง, ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ ลำปาง, ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ ลำปาง, ต.บ้านกลาง อ.เมือง ลำพูน, ต.เวียง อ.เมือง เชียงราย, ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย เชียงราย, ต.ช้างเผือก อ.เมือง เชียงใหม่, ต.ศรีภูมิ อ.เมือง เชียงใหม่, ต.สุเทพ อ.เมือง เชียงใหม่, ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม เชียงใหม่, ต.นาจักร อ.เมือง แพร่, ต.จองคำ อ.เมือง แม่ฮ่องสอน ฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) ตรวจพบค่าระหว่าง 92 - 217 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร  เกินมาตรฐานที่บริเวณต.แม่ปะ อ.แม่สอด ตาก, ต.ในเวียง อ.เมือง น่าน, ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ น่าน, ต.บ้านต๋อม อ.เมือง พะเยา, ต.พระบาท อ.เมือง ลำปาง, ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ ลำปาง, ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ ลำปาง, ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ ลำปาง, ต.บ้านกลาง อ.เมือง ลำพูน, ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย เชียงราย, ต.ช้างเผือก อ.เมือง เชียงใหม่, ต.ศรีภูมิ อ.เมือง เชียงใหม่, ต.นาจักร อ.เมือง แพร่

ด้านพลตรี บัญชา ดุริยพันธ์ รองแม่ทัพภาคที่ 3 ได้แจ้งมายัง ผู้ว่าราชการ จังหวัดเชียงใหม่ ผู้บัญชาการ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดเชียงใหม่ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 7 ว่า ผมได้รับบัญชาสั่งการจากรัฐบาล ให้เข้ามาแก้ไขวิกฤติหมอกควัน ฝุ่นละออง ที่มีผลกระทบกับชีวิตพี่น้องประชาชน ในพื้นที่จังหวัดที่มีค่าสูงมากในวันนี้ มีคำสั่งด่วน ทางกองทัพภาคที่ 3 จะเคลื่อนย้ายกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือกองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ไปเข้าที่ตั้ง ณ สโมสรค่ายกาวิละ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ประจำ บก.เพื่อปรับสถานการณ์ และควบคุมสถานการณ์

โดยจะมีการประสานการปฏิบัติ แบบบูรณาการกันดังนี้ การสร้างมวลอากาศดีในเขตพื้นที่ ชุมชนหนาแน่น ให้ระดมเครื่องพ่นละอองน้ำ ติดตั้งภายในวันนี้ ณ พื้นที่ 2 จุด คือรอบคูเมืองทั้ง 4 ทิศ ของอำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่ บริเวณห้วยตึงเฒ่า ซึ่งเคยใช้เป็นที่สร้างม่านน้ำฟอกอากาศอยู่แล้ว การปฏิบัติโดยให้ประสานใช้ยุทโธปกรณ์ของหน่วยในทุกภาคส่วน มาดำเนินการ โดยให้ปฏิบัติในห้วงเวลาตั้งแต่ 10.00 น. ของทุกวันจนถึง 14.00 น.ของทุกวันจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้เจ้าของตึกสูง ร่วมพ่นละอองน้ำ เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับอากาศ

นอกจากนี้ จะมีการประชาสัมพันธ์รณรงค์งดการเผาอย่างเด็ดขาด และใช้มาตรการทางกฎหมาย หาตัวบุคคลที่ไม่ให้ความร่วมมือในการลักลอบเผาป่า และเผาพื้นที่เกษตรกรรม ขณะเดียวกันให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งวอร์รูม ร่วมกับ กองพลทหารราบที่ 7 และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง วางแผนในการปฏิบัติการดับไฟในเขตพื้นที่เพื่อลดค่าละอองฝุ่นพิษ โดยให้มีที่ตั้งอยู่ ณ สโมสรค่ายกาวิละให้เปิดทำการตั้งแต่ 9:00 น.วันนี้ และรายงานผลการปฏิบัติตรงในการปฏิบัติงานวงรอบ 24 ชั่วโมงทุกวันให้กับ กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือกองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จังหวัดพิษณุโลก ทุกวัน

ด้านนายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึง กรณีที่สภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วง 1- 2 วันนี้ มีหมอกควันสูงขึ้น ประชาชนหลายคนอาจห่วงวิตกในช่วงนี้ ผมได้สอบถามไปยัง ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ แจ้งว่าเนื่องจากลมบนและลมล่างมีกำลังอ่อนตัว ทำให้หมอกควันไม่กระจายตัวขึ้นด้านบน ส่วนหมอกควันในเชียงใหม่นั้น เกิดมาจาก 2 ส่วน ทั้งในประเทศมาจากทางด้านทิศใต้ของจังหวัดเชียงใหม่ และมาจากด้านชายแดน ที่ไหลเข้ามารวมกันในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งมีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ ก็ทำให้หมอกควันเกิดความหนาแน่นขึ้น ทั้งนี้คาดว่าภายใน 2 – 3 วันนี้ จะมีลมเข้ามา อากาศจะลอยตัวขึ้น คุณภาพอากาศก็จะดีขึ้นมาตามลำดับ 

นายศุภชัย กล่าวอีกว่า เราทำปัจุบันที่เป็นปัญหาเฉพาะหน้าในการบรรเทาปัญหา เช่น การฉีดพ่นละอองน้ำจากจุดต่างๆ ในเขตชุมชน รวมทั้งการแก้ไขอย่างเข้มข้นต่อไปคือเราต้องการไม่ให้มีการเผาป่าการป้องกันดูแลที่ไม่ทำให้เกิดการเผาป่าอีก ทั้งนี้ขอความร่วมมือประชาชนได้ช่วยกันรณรงค์ไม่ให้มีการเผาป่า หรือทำให้เกิดปัญหาหมอกควันขึ้น รวมทั้งการใช้มาตรการต่างๆ อย่างเข้มข้น พร้อมกับการสร้างความรับรู้ของพี่น้องประชาชนควบคู่กันไปด้วย โดยเฉพาะกำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารท้องถิ่นขอให้ช่วยกันดูแลในพื้นที่ของแต่ละตำบลแต่ละหมู่บ้านให้ช่วยสอดส่องการดูแลไม่ให้มีการเผาป่า ผมเชื่อว่าหากทุกฝ่ายร่วมมือกันปัญหาก็จะหมดไป

"ขณะเดียวกันทางจังหวัดก็ได้ปรับแผนงบประมาณจากทางจังหวัดลงไปทางอำเภอเพื่อให้อำเภอทำงานกันมากขึ้น รวมทั้งลงไปพูดคุยพบปะกับพี่น้องประชาชน เพื่อไปทำความเข้าใจในระดับพื้นที่ในระดับอำเภอต่อไป ซึ่งผมเองก็จะใช้ความพยายามอย่างเต็มความสามารถ จึงขอความร่วมมือกับพี่น้องประชาชนว่าพวกเราจะรณรรงค์ไม่ให้มีการเผาป่าเพื่อจะทำให้เกิดปัญหาหมอกควันขึ้น" ผวจ.เชียงใหม่ กล่าว

ด้านกลุ่มระบาดวิทยาและข่าวกรองกลุ่มควบคุมโรคเขตเมือง สคร.1 เชียงใหม่ กรมควบคุมโรค ได้เฝ้าระวังผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชนใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน พบว่าพบว่าการเฝ้าระวังผลกระทบด้านสุขภาพจากภาวะหมอกควันในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 1 ประจำสัปดาห์ที่ 8 (ระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์ - 2 มีนาคม 2562) พบ จำนวนผู้ป่วยสะสม มีทั้งสิ้น 284,683ราย มีข้อมูลรายงานการเฝ้าระวังผลกระทบด้าน สุขภาพฯ ใน 4 กลุ่มโรค จำนวนทั้งสิ้น 24,970 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 677.42 ต่อประชากรแสนคน

กลุ่มโรคที่มีรายงานสูงสุด ได้แก่ กลุ่มโรคทางเดินหายใจทุกชนิด อัตราป่วย 338.63 ต่อประชากรแสนคน รองลงมา ได้แก่ กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือดทุกชนิดอัตราป่วย 285.43 ต่อประชากรแสนคน กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ อัตราป่วย 26.75 ต่อประชากรแสนคน และกลุ่มโรคตาอักเสบ อัตราป่วย 26.61 ต่อประชากรแสนคน จังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด คือ จังหวัดแพร่ 

กลุ่มอายุที่มีรายงานมากที่สุด ได้แก่ กลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป (10,190 ราย) เพศหญิงและชายมีอัตราส่วนการรายงานใกล้เคียงกัน คือ 1.25 : 1) กลุ่มผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป ) มีรายงานป่วยเป็นโรคใน กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือดทุกชนิดและกลุ่มโรคทางเดินหายใจทุกชนิดมากที่สุด จำนวน 6,619 ราย และ 2,969 ราย ตามลำดับ กลุ่มเสี่ยงที่มีโรคประจำตัว ส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง และเบาหวาน (4,452 รายและ 716 ราย ตามลำดับ) ในขณะที่กลุ่มในขณะที่กลุ่มผู้ป่วย COPD และหอบหืด ยังมีรายงานไม่มากเท่า 2 กลุ่มแรก

อย่างไรก็ตาม กลุ่มระบาดวิทยาและข่าวกรองกลุ่มควบคุมโรคเขตเมือง สคร.1เชียงใหม่ ยังให้คำแนะนำสำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่อยู่ในพื้นที่ที่มีค่าเฉลี่ย PM 2.5 สูง ควรงดออกนอกบ้านหรือออกกำลังกายกลางแจ้ง ถ้าออกนอกบ้านให้สวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก และหากมีอาการผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์ หรือไปที่สถานบริการสาธารสุข ผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรเตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็น สำหรับประชาชนทั่วไป ให้งดกิจกรรมที่ทำให้เกิดฝุ่นละออง หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์หรือไปที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านท่าน.