ศพพ่อเลี้ยงปางช้างแม่สาอลเวง ญาติส่วนใหญ่ไม่ยินยอมให้นำศพออกจากโบสถ์ ฝ่ายลูกสาวคนโตที่ร้องให้ตรวจพิสูจน์ศพ เผยข้อสงสัย ไม่แจ้งการตาย ไม่รู้ตายจริงหรือไม่ ล่าสุดตำรวจไปเจรจาอีกรอบ ยังไม่ยอม
วันที่ 31 ม.ค. กรณีการเสียชีวิตของนายชูชาติ กัลมาพิจิตร อายุ 79 ปี เจ้าของปางช้างแม่สา แหล่งท่องเที่ยวการแสดงช้างที่ใหญ่ที่สุดของภาคเหนือ โดยเสียชีวิตขณะทางญาตินำออกจากโรงพยาบาลหลังจากนอนรักษาตัวด้วยโรคมะเร็งในเม็ดเลือดขาว มายาวนานหลายเดือน โดยนำมารักษาตัวที่บ้านโดยอ้างตามความต้องการของนายชูชาติเอง แต่เมื่อมาถึงบ้านไม่นานก็เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 27 ม.ค.เวลาประมาณ 23.00 น. ทางภรรยาใหม่ที่อยู่ด้วยกัน ได้จัดทำบุญทางศาสนาคริสต์ที่โบสถ์ภายในหมู่บ้าน โดยไม่ได้แจ้งตายและแจ้งตำรวจ
จนเมื่อวันที่ 30 ม.ค. นางอัญชลี กัลมาพิจิตร บุณราช อายุ 51 ปี ลูกสาวคนโต เกิดสงสัยในการเสียชีวิตและการแจ้งหน่วยงานของรัฐที่ล่าช้า จึงได้เข้ามาแจ้งความ ขอให้มีการพิสูจน์สาเหตุของการเสียชีวิตในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมแพทย์จึงไปตรวจสอบเบื้องต้น ณ ที่ตั้งศพ ขอนำศพส่งตรวจฝ่ายนิติเวช รพ.มหาราชนครเชียงใหม่เพื่อผ่าพิสูจน์ศพหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง โดยทีแรก ทางญาติยินยอมให้นำศพลงมาในเวลา 21.00 น.วันที่ 30 ม.ค.
...
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อถึงเวลา ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ริม พร้อมรถรับศพจะขึ้นไปนำศพนายชูชาติ ลงมา ปรากฏว่าทางญาติผู้ใหญ่ ได้มีการประชุมกันในหมู่ญาติอีกครั้ง มีความเห็นไม่สมควรให้นำศพนายชูชาติ ลงมาเพราะเป็นการรบกวนผู้ตาย โดยได้มีการนำรถบรรทุก 6 ล้อจำนวนหลายคันมาปิดเส้นทางขึ้นไปบนโบสถ์เซนต์นิโคลาส บ้านโต้งหลวง ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พร้อมกันนี้ได้จัดเวรยามเฝ้าเส้นทางไม่ให้ทางตำรวจขึ้นไปยำศพลงมาโดยมีมวลชนชาวบ้านมาร่วมเฝ้าเส้นทาง ทางตำรวจจึงไม่สามารถนำศพมาส่งตรวจพิสูจน์ได้และต้องล่าถอยออกมา
ต่อมา เวลา 09.00 น. นางอัญชลี กัลมาพิจิตร ลูกสาวของนายชูชาติ กัลมาพิจิตร ได้เดินทางมาพบกับ พ.ต.อ.บุญส่งวิทย์ ห้องแซง ผกก.สภ.แม่ริม เพื่อให้ปากคำเกี่ยวกับเรื่องที่ร้องขอให้ทางตำรวจทำการตรวจพิสูจน์ศพหาสาเหตุที่แท้จริง โดยใช้เวลาในการพูดคุยร่วม 1 ชั่วโมง ก่อนที่อัญชลี จะออกจากห้องมา พร้อมกับ พ.ต.อ.บุญส่งวิทย์ แต่ พ.ต.อ.บุญส่งวิทย์ พร้อมออกตัวไม่ขอให้สัมภาษณ์ใดๆ ให้ถามจากนางอัญชลี เอง
ด้านนางอัญชลี เผยว่า ทางตำรวจได้นัดให้มาพบในเวลา 09.00 น. ที่ สภ.แม่ริม เมื่อมาถึงก็ได้รับทราบว่าทางผู้กำกับ สภ.แม่ริม อยากจะคุยกับทั้งสองฝ่าย และตนมาตามเวลานัด แต่ปรากฏว่าไม่มีอีกฝ่ายมาทางผู้กำกับ ก็ถามตนว่า จะยังยืนยันอยู่ใช่ไหมว่าจะผ่าพิสูจน์ศพคุณพ่อ เพื่อให้ได้รับทราบผล ตนก็ยืนยันว่า อยากจะทำให้ครบถ้วนตามกระบวนการในฐานะลูกของพ่อ เราก็รักพ่อเรามากก็เลยอยากให้เป็นไปตามนั้น ที่จะผ่าพิสูจน์การเสียชีวิตของพ่อ
“ในฐานะบุตรคนโต จึงมีความสงสัยว่าประเด็นที่ 1.ไม่รู้เรื่องว่าพ่อถูกนำออกจากโรงพยาบาลทั้งๆ ที่เราไปอยู่ในตั้งแต่ 16.00-18.00 น. ก็ไม่มีใครบอกว่า เดี๋ยวพ่อจะออกจากโรงพยาบาล คือ เพราะพอเราออกจากห้อง ก็มีการเคลื่อนย้ายพ่อทันที ประเด็นที่ 2 พ่อเสียชีวิตตอน 23.35 น. ของคืนวันอาทิตย์ที่ 27 คือนึกไม่ออกเลยว่าพ่อเสียชีวิตด้วยเหตุอะไร เพราะอะไร กับใคร สถานที่เกิดเหตุอย่างไร เราไม่มีข้อมูลเลย ก็เลยต้องทำหน้าที่ ต้องมาดูว่าเขาต้องทำอะไรกันยังไง และก็ไปแจ้งความ แจ้งผู้ใหญ่บ้านว่าครบถ้วนกระบวนการไหม ปรากฏว่าไม่ครบ คือ ขั้นตอนของการพิสูจน์ศพว่าจริงๆ แล้ว ท่านเป็นอะไรถึงเสียชีวิต เพราะในใบมรณบัตรก็ไม่ชัดเจน ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าพ่อเสียชีวิต”
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีหลายคนสงสัยว่าจริงๆ แล้ว มีเรื่องมรดกเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ นางอัญชลี ตอบว่าบอกตามตรงตนยังไม่คิดถึงเรื่องนั้น เพราะมันยังมาไม่ถึง แต่ตนคิดถึงเรื่องการเสียชีวิตของพ่อเป็นหลักก่อน ส่วนเรื่องมรดก มันก็เป็นขั้นตอนของกฎหมาย บุตร ทายาทก็ต้องได้รับไปตามกฎหมายอยู่แล้ว มันไม่ใช่ปัญหาเลย เพราะตนเป็นบุตร ส่วนภรรยาที่จดทะเบียนสมรส จะได้สินสมรสอะไร ก็เป็นเรื่องของเขาเรายังไม่ได้เดินทางมาถึงขั้นนั้น เดินทางไปแค่ว่าพ่อเราเสียชีวิตวันที่ 27 แต่ทำไมไม่ไปแจ้งว่าตายภายใน 24 ชั่วโมว ปล่อยไว้ถึงวันที่ 30 จนตนไปที่อำเภอและขอดูใบมรณบัตร จึงได้พบว่าไม่มีการกระทำการใดๆ ตามขั้นตอน
...
เมื่อถามว่า ทางฝ่ายญาติไม่ให้นำศพออกมา จะดำเนินการอย่างไร นางอัญชลี ตอบว่าขั้นตอนของตน มันจบไปแล้วเมื่อวานนี้ ให้ปากคำตำรวจแล้ว แจ้งความร้องทุกข์เรียบร้อยแล้ว ความต้องการของตนมันชัดเจน ตำรวจเรียกมาตนก็มาก็อยากให้กระบวนการตรงนั้นสมบูรณ์ที่สุด เป็นที่เปิดเผยต่อสาธารณะได้
ล่าสด เวลา 11.30 น.วันที่ 31 ม.ค. พ.ต.ท.ภาสกร ปกปิงเมือง รอง ผกก.สส.สภ.แม่ริม ได้ทำหนังสือขออายัดศพนายชูชาติ กัลมาพิจิตร ไว้แล้ว โดยให้ทางตำรวจสายตรวจตู้ยามแม่แรม นำหนังสือไปยื่นให้กับทางญาติฝ่ายที่จัดการงานศพเพื่อแจ้งให้ทราบและในเวลา 14.30 น.ได้จัดเตรียมกำลังเดินทางไปยังที่ไว้ศพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 14.30 น. พ.ต.อ.บุญส่งวิทย์ ได้นำกำลังขึ้นไปยังที่ตั้งศพนายชูชาติ ที่หมู่บ้านโต้งหลวง ต.แม่แรม อ.แม่ริม โดยห้ามไม่ให้ผู้สื่อข่าวติดตามขึ้นไป ซึ่งการเจรจาใช้เวลาร่วม 2 ชั่วโมง ยังไม่ประสบความสำเร็จ มีการติดต่อให้นางอัญชลี ขึ้นไปเจรจาร่วม แต่นางอัญชลีปฏิเสธ บอกให้เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะดำเนินการ.