ตร.คุม “ไอ้ปุ๊” เขยคลั่งฆ่ายกครัว 5 ศพ ทำแผนที่ บก.ภูธรอุตรดิตถ์ หวั่นโดนญาติรุมยำ โดยคนร้ายสารภาพเหตุจูงใจสังหาร เครียดภรรยาบอกเลิกและพ่อตาตะเพิดออกจากบ้าน หลังทราบเกี่ยวพันยาเสพติด...
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 16 มกราคม 62 ที่ตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ ถนนสาย พิษณุโลก-อุตรดิตถ์ พล.ต.ท.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.(ปป) สนง.ตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาแถลงข่าวการจับกุมและทำแผนจำลองประกอบคำรับสารภาพกับผู้ก่อเหตุ ฆ่ายกครัว 5 ศพ พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุธีร์ เนรกัณฐี อ ผบช.ภาค 6 และพ.ต.อ.คีรี เกียรติสาร รอง ผบก.ภ.จ.อุตรดิตถ์ พ.ต.อ.สุเทพ ประภากรณ์ รอง ผบก.ภ.จ.อุตรดิตถ์ ร่วมแถลงข่าวและทำแผนจำลอง หลังจับกุมตัวที่จังหวัดระนองที่ผ่านมาและนำตัวมาแถลงข่าวและทำแผนจำลองดังกล่าว ในขั้นตอนการฆ่า หากไปที่เกิดเหตุหวั่น ญาติๆและเพื่อนบ้านจะประชาทัณฑ์
พล.ต.ท.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.(ปป) สนง.ตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากสอบสวนจาก นายธีรพล ปิ่นอมร หรือไอ้ปุ๊ อายุ 38 ปี ผู้ก่อเหตุให้การว่า สาเหตุจากการจูงในการก่อเหตุที่ต้องตระเวนฆ่ายกครัวทั้ง 5 นั้น ด้วยอาวุธปืน ขนาด 9 มม.ซึ่งประกอบไปด้วย นายวิรัตน์ กิ่งแก้ว อายุ 48 ปี พ่อตา และนางกัญญาภัทร กิ่งแก้ว อายุ 28 ปี ลูกสาว ที่เป็นภรรยาของนายธีรพล เสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 177 หมู่ 1 ต.พญาแมน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ และยิง นางน้ำผึ้ง อินทร์สิทธิ์ อายุ 48 ปี แม่ยายพร้อมด้วยนางน้ำผา อินทร์สิทธิ์ อายุ 48 ปี พี่สาวฝาแฝดของนางน้ำผึ้งและนางกนกวรรณ อินทร์สิทธิ์ อายุ 53 ปี พี่สาวของนางน้ำผึ้ง เสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 71 หกมู่ 2 ต.พญาแมน อ.พิชัย ไปเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านนั้น
...
นายธีรพล ปิ่นอมร ผู้ต้องหา ให้การว่า ก่อนที่จะมาก่อเหตุในครั้งนี้ ตัวเองเครียดมากที่ภรรยาบอกเลิกและพ่อตาตะเพิดให้ออกไปจากบ้าน จากปมเหตุจับได้ว่าไปพัวพันกับยาเสพติด และอีกเรื่องคือ ไม่ยอมโอนรถกระบะ รวมทั้ง บ้านและทรัพย์สินที่ตนสร้างคืนให้ ก่อนจะยิง นายวิรัตน์ พ่อตา เป็นแรกตนได้มีปากเสียงกับ ภรรยา คือ นางกัญญาภัทร อย่างรุนแรงถึงขั้น ภรรยาใช้ถ้อยคำหยาบคาย ประกอบกับภรรยาตนท้าทายว่า หากอยากได้บ้านและรถคืนให้ไปฟ้องศาลเอาเองและยิงเลย จึงชักปืนที่พกอยู่ที่เอวกระหน่ำยิง พ่อตาก่อนแล้วหันกระบอกปืนมายิงภรรยาตัวเอง และต่อมาไล่ยิงน้องเมีย คือ นางสุพัตรา กำแหง พร้อมด้วยคู่เขย ที่หนีเข้าไปในไร่ข้าวโพดข้างบ้าน
ผู้ต้องหา กล่าวต่อว่า หลังจากยิงตาย 2 ศพ แล้วนั้นได้ขับรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี่ สีขาว ทะเบียน กล 4561 พิษณุโลก ไปยังที่บ้านญาติของภรรยา อยู่ห่างกันประมาณ 3 กิโลเมตรแล้วยิงอีก 3 ศพ จากนั้นจึงขับรถหนีไปยัง จ.พิษณุโลก เพื่อที่จะหลบหนีไปยังจังหวัดระนอง ก่อนจะไปกบดานที่ฝั่งประเทศเมียนมา แต่ก็มาถูกจับกุมเสียก่อน ส่วนเงินที่ตนมีเป็นจำนวนมากนั้นเล่นหุ้น และเป็นเจ้ามือหวยที่จังหวัดภูเก็ตมาก่อนที่จะมาอยู่กับภรรยาที่ตนยิงจนเสียชีวิต
พล.ต.ท.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า ได้มอบเหรียญทำความดี ผู้ที่ปฏิบัติงานทั้งหมด ซึ่งเป็นการทำงานกันแบบบูรณาการ ทั้งฝ่าย ทหาร ตำรวจ ในพื้นพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ตำรวจชุดสืบสวนภาค 6 ตำรวจภูธร จังหวัดระนอง การสอบสวน ส่วนคดี ทางพนักงานสอบสวนหลังรวบหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ออกหมายจับ ผู้ก่อเหตุ ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าผู้อื่น” ตามหมายจับเลขที่ จ.21/2562 ลงวันที่ 14 มกราคม 62และได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติม “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ครอบครองโดยผิดกฎหมาย พาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านหรือสาธารณประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาต ให้มีอาวุธปืนติดตัวและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน ตามสมควรแก่พฤติการณ์ ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชน อีกข้อหาหนึ่งด้วย
สำหรับบรรยากาศงานศพผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย วันนี้ นายปรัชญา เสริฐลือชา นายอำเภอพิชัย พร้อมด้วย นายวารุจ ศิริวัฒน์ อดีต ส.ส. จ.อุตรดิตถ์ ได้เดินทางมาร่วมงานและดูความเรียบร้อยในการสร้างเชิงตะกอนดังกล่าว ซึ่งมีชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้าน ร่วมใจกันทำเชิงตะกอน แบบโบราณ เพื่อเผาศพ 5 ราย ที่เป็นเหยื่อเขยคลั่งฆ่ายกครัว โดยจะแยกเป็น 2 วัด จากกรณี นายธีรพล ปิ่นอมร หรือไอ้ปุ๊ อายุ 38 ปี ใช้อาวุธปืนยิง ก่อเหตุใช้อาวุธปืน 9 มม.ยิงเสียชีวิต ไปเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่าน
...
หลังจากที่สมาคมกู้ภัยวัดหมอนไม้ นำผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ศพ จาก รพ.พุทธชินราชนำมาตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัด 2 แห่ง ได้แก่ วัดเกาะวารี หมู่ที่ 1 ต.พญาแมน อ.พิชัย จำนวน 3 ศพ ได้แก่ นายวิรัตน์ กิ่งแก้ว พ่อ นางน้ำผึ้ง อินทร์สิทธิ์ แม่และนางกัญญารัตน์ กิ่งแก้ว ลูกสาวซึ่งเป็นภรรยาของผู้ต้องหาและวัดบ้านดง จำนวน 2 ศพ คือ นางน้ำผา อินทร์สิทธิ์ และนางกนกวรรณ อินทร์สิทธิ์ โดยจะประกอบพิธีเผาบนเชิงตะกอนสร้างขึ้นเป็นกรณีพิเศษ เพราะเมรุของวัดทั้งสองแห่งไม่สามารถเผาศพพร้อมกันหลายๆ ศพได้ ซึ่งชาวบ้านได้ช่วยกันสร้างที่บริเวณลานวัด ที่มีบรรดาญาติและเพื่อนบ้านทั้ง 2 หมู่บ้านเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก บรรยากาศเป็นด้วยความโศกเศร้า.