กองทัพภาคที่ 3 ตำรวจภูธรภาค 5-6 และ ป.ป.ส.เผยผลการจับกุมยาเสพติดในรอบ 3 เดือน สามารถจับยาบ้า ยาไอซ์ และยาเสพติดอื่นๆ ได้จำนวนมาก รวมมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท...

เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.61 ที่สโมสรค่ายเม็งรายมหาราช จ.เชียงราย พล.ท.ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาค 3 นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผวจ.เชียงราย บก.ปส.3 ปปส. ตำรวจภาค 5-6 ร่วมแถลงผลการปราบปรามยาเสพติดพื้นที่กองทัพภาค 3 ในรอบ 3 เดือน จากความร่วมมือบูรณาการ ระหว่างทหารตำรวจ ฝ่ายปกครอง ป.ป.ส.ออกสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ชายแดนและพื้นที่ชั้นใน ระหว่างวันที่ 26 ต.ค.-20 พ.ย.61 ผลการกวาดล้างพื้นที่ชั้นใน สามารถจับกุมยาบ้าได้ 29,593,069 เม็ด ยาไอซ์ 607,50 กก. เฮโรอีน 71,27 กก.สำหรับพื้นที่ชั้นในสามารถจับยาบ้าได้ 88,062,694 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน 885,87 กก. เฮโรอีน จำนวน 70,03 กก. รวมผลการปฏิบัติงานสามารถยึดยาบ้าได้ 113,655,762 เม็ด ยาไอซ์ 1,493,37 กก. เฮโรอีน 140.30 กก. รวมมูลค่าทั้งหมดกว่า 2 พันล้านบาท 


พล.ท.ฉลองชัย กล่าวว่า นับตั้งแต่รัฐบาลได้สั่งการให้มีการสกัดกั้นปราบปรามยาเสพติดเป็นนโยบายเร่งด่วนให้เห็นผลภายใน 3 เดือน เพื่อลดการแพร่ระบาดของยาเสพติดในภาคเหนือและทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 23 พ.ย.ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามยาเสพติดกองทัพภาคที่ 3 จึงจัดประชุมแผนการบูรณาการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ออกสกัดกั้นโดยใช้มาตรการเด็ดขาด ผ่านมา 2 เดือน ได้จับกุมนับร้อยคดี ทั้งวิสามัญและยึดทรัพย์สินอย่างเข้มข้นไปถึงเดือน ธ.ค.ครบ 3 เดือน และจะมีการปฏิบัติไปอย่างต่อเนื่องอีก และมีการประสานกับประเทศเพื่อนบ้านแหล่งผลิตยาเสพติดทั้ง 2 ประเทศ ภายในของเพื่อนบ้านก็มีการจับกุมได้บ่อย เพียงแต่บางพื้นที่อาจจะไม่สะดวกเท่าที่ควร

...

ส่วนยาบ้าระยะหลังทะลักเข้ามามากครั้งละนับ 10 ล้านเม็ด ทั้งที่กลุ่มผู้บริโภคในประเทศมีเท่าเดิม จึงคาดว่าของเราจะเป็นเพียงทางผ่าน เพื่อทะลักออกชายแดนไปประเทศเพื่อนบ้านทางด้านอื่น ซึ่งจะต้องมีการปรับแนวการปฏิบัติสกัดกั้นยาเสพติดบ่อยๆ ขึ้น เพื่อให้ทันกับขบวนการค้ายาเสพติด ที่เปลี่ยนรูปแบบและช่องทางการขนจากทางน้ำไปทางบก รอบทิศตลอดแนวชายภาคเหนือ และใช้มาตรการอย่างเด็ดขาดจนกว่ายาเสพติดจะหมดไป.