เฮียร้านคาราโอเกะเชียงใหม่ หอบเงิน 6 หมื่นคืนหนุ่มเกาหลีหลังแจ้งความร้องโดนโหดเช็กบิล 1.6 แสน และก่อนหน้าคืนเงินแล้ว 6 หมื่น แต่ตำรวจต้องดำเนินคดีเจ้าของฐานเปิดสถานบริการไม่ได้รับอนุญาต...
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 5 ต.ค.61 ที่ สภ.เมือง เชียงใหม่ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ บุญประสิทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.ท.พรพิชิต รุ่งเรือง รอง ผกก. (หน.งานสอบสวน) ร.ต.อ.เกษมสิษฐ์ ต่อกัน รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้นัดให้นาย Jeong Geunbok อายุ 46 ปี นักท่องเที่ยวชาวเกาหลี คู่กรณีร้านคาราโอเกะมาเจรจาตกลงกัน โดยมี นายชัยวัฒน์ ทรงไชยวรรณ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 ซอยสถิตย์ยุทธการ 3 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี เป็นเจ้าของร้านทูเก็ตเตอร์คาราโอ้เก ถ.เจริญประเทศ ต.ช้างคลาน อ.เมือง เชียงใหม่ มาเจรจาตกลงกัน

ก่อนหน้านี้ นาย Jeong ได้มาเที่ยวเชียงใหม่ ได้มีคนขับรถสามล้อเครื่องพาไปเที่ยวร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งย่านถนนเจริญประเทศ ในตัวเมืองเชียงใหม่ เมื่อไปถึงในร้านพบว่ามีสาวๆ นับสิบคนมารุมนั่งด้วยพร้อมกับสั่งเครื่องดื่มมากินด้วย พอร้านปิด พนักงานมาขอเช็กบิล เป็นเงิน 160,000 บาท (หนึ่งแสนหกหมื่นบาท) และยังข่มขู่ให้ตนส่งบัตรเครดิตให้ เพื่อนำไปรูด ตนหวาดกลัวจะมีเรื่องจึงยอมส่งบัตรให้ไป และบัตรถูกนำไปรูดถึง 3 ครั้ง เอาเงินออกไปคิดเป็นเงินไทย 1.6 แสนบาท
...
หลังจากเกิดเหตุกลับมาที่พักได้ปรึกษากับเพื่อนคนไทยเห็นว่าร้านดังกล่าวคิดค่าบริการแพงเกินจริง จึงได้ให้มาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน และทางตำรวจได้เรียกเจ้าของร้านมาเจรจาและคืนเงินให้ผู้เสียหายไปแล้ว 6 หมื่น แต่ผู้เสียหายยังไม่พอใจจึงไปร้องสถานทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย เพื่อขอเงินคืนอีกเพราะทางร้านคิดค่าบริการแพงกว่าความเป็นจริง ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะได้เรียกตัวแทนร้านมาเจรจาตกลงกันในวันนี้
เจ้าของร้านคาราโอเกะ วัย 35 ปี กล่าวยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ยินดีคืนเงินให้กับชาวเกาหลีผู้เสียหาย อีก 6 หมื่นบาท รวมกับของเก่าที่คืนไปแล้ววันก่อน 6 หมื่นบาท รวมเป็นเงิน 1.2 แสนบาท คืนให้ลูกค้าไป ทางผู้เสียหายชาวเกาหลีได้รับเงินคืนเพิ่มอีก 6 หมื่นก็ไม่ได้ติดใจเอาความและไม่ประสงค์ที่จะดำเนินคดีกับทางร้านอีกต่อไปจึงขอยุติคดีทั้งหมด

ด้าน พ.ต.ท.พรพิชิต รุ่งเรือง รอง ผกก.สส. สภ.เมืองเชียงใหม่ เผยว่า คดีนี้เป็นคดีความผิดอันยอมความกันได้ ถึงแม้ว่าผู้เสียหายได้รับเงินคืนไม่ติดใจจะเอาความกับเจ้าของร้านแล้ว แต่ทางตำรวจจะต้องดำเนินคดีกับ นายชัยวัฒน์ ในข้อหาตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอณุญาต และนำตัวส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ต่อไป.