นำเงินมาใช้หนี้ แก้ปมสหกรณ์ เยียวยาลูกน้อง
สารวัตรหนึ่งในผู้เสียหายตุ๋นกู้เงินสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจ แฉแนวทางการช่วยเหลือของทางสหกรณ์บรรเทาความเดือดร้อนแทบไม่ได้ การลดยอดชำระเงินต้นรายละ 30 เปอร์เซ็นต์ ไม่เกิน 3,000 บาท ลำพังสองคนผัวเมียยังไม่พอใช้ ส่วนใหญ่มีลูกต้องเลี้ยงดู อยากให้แขวนทั้งต้นและดอกเบี้ยรอหักจากทรัพย์สินที่ยึดมาจากผู้ต้องหา ส่วนเรื่องที่ ผบช.ภ.4 ให้สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจส่งให้นิติกรสหกรณ์ออมทรัพย์จังหวัดเลยตรวจสอบความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ผ่านมาเกือบเดือนยังส่งไม่ถึงที่หมาย
การดำเนินคดี พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช อดีต ผบก.ภ.จ.เลย กับพวก ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน หลอกให้ตำรวจ ภ.จ.เลย กู้เงินสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจ ภ.จ.เลย แล้วนำเงินไปลงทุนสูญทั้งต้นทั้งดอกราว 229 ล้านบาท ทำให้ตำรวจที่ตกเป็นเหยื่อ 192 นาย ได้รับความเดือดร้อนหนี้เก่ายังคงอยู่ แถมหนี้ใหม่ยังพอกพูนเกือบเท่าตัว แทบไม่เหลือเงินเลี้ยงครอบครัว ร.ต.อ.สมเผ่า โพธิ์ศรี อายุ 60 ปี รอง สวป.สภ.ปากชม เครียดจัดเนื่องจากทราบจากเพื่อนตำรวจว่ากำลังจะถูกยึดที่นานำมาค้ำประกันหนี้ให้ ส่งผลให้เกิดอาการเส้นเลือดในก้านสมองแตกเสียชีวิตสังเวยโครงการฉาวอย่างน่าสังเวชใจ แต่การช่วยเหลือตำรวจที่ได้รับผลกระทบก็ยังไม่มีความชัดเจน ขณะที่ผู้บังคับบัญชาพยายามเบี่ยงประเด็นสาเหตุการตายของ ร.ต.อ.สมเผ่าไม่เกี่ยวข้องกับการถูกหลอกให้กู้เงินในโครงการดังกล่าว จนภรรยาผู้ตายออกมาตอบโต้ดุเดือด “อย่าบิดเบือนความจริง”
ความคืบหน้าการช่วยเหลือตำรวจที่ตกเป็นเหยื่อตุ๋นกู้เงินสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจ ภ.จ.เลย เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 2 ก.ย. นายตำรวจระดับสารวัตรหนึ่งในผู้เสียหายโครงการดังกล่าว เปิดเผยว่าในการประชุมหาทางช่วยเหลือตำรวจที่ตกเป็นเหยื่อ มี พล.ต.ต.สุดพิเศษ เอกศิริ ผบก.ภ.จ.เลย ประธานสหกรณ์ฯ พร้อมด้วยผู้จัดการและกรรมการของสหกรณ์ กับตัวแทนตำรวจผู้เสียหายโรงพักละ 2 นาย เมื่อบ่ายวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา มีการกล่าวถึงเรื่องการปรับดอกเบี้ยเงินกู้เป็นร้อยละ 7.5 ต่อปีตามนโยบายผู้จัดการสหกรณ์ฯคนใหม่นั้น ทางสหกรณ์ยอมให้ใช้ข้อตกลงเดิม โดยเงินกู้ 1 ล้านบาทแรกเสียดอกเบี้ย ร้อยละ 7 เงินต้นล้านที่สองเสียดอกเบี้ยร้อยละ 4 เงินต้นล้านที่ 3 เสียดอกเบี้ยร้อยละ 2 ส่วนเงินกู้ล้านที่ 4 ไม่ต้องเสียดอกเบี้ย
...
ในส่วนของการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยนั้น ทางสหกรณ์ฯยอมผ่อนผันลดการชำระเงินต้นลงร้อยละ 30 แต่ไม่เกินรายละ 3,000 บาท ภายในระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือนต่อรายต่อครั้ง ผู้เข้าร่วมโครงการพร้อมผู้ค้ำประกันรวม 5 คน ต้องมายื่นคำร้องที่สหกรณ์ฯ สารวัตรนายเดิมกล่าวต่อว่าเงินจำนวน 3,000 บาทนี้ ไม่เพียงพออยู่แล้ว ครอบครัว 2 คนผัวเมียมีเงินใช้ได้แค่คนละ 50 บาทต่อวัน ในความเป็นจริงส่วนใหญ่มีลูกที่ต้องดูแลแทบทั้งนั้น นอกจากนี้ หลังครบเวลา 6 เดือน ไม่มีใครหาเงินมาจ่ายได้ และการนำทรัพย์สินของผู้ต้องหาที่ยึดมาได้ไปขายนำเงินมาหักหนี้ต้องใช้เวลาเป็นปี จากการพูดคุยหารือกับเพื่อนตำรวจส่วนใหญ่อยากให้แขวนดอกและเงินต้นไว้ รอหักกับเงินทรัพย์สินที่ยึดมาจากผู้ต้องหา ถึงจะบรรเทาความเดือดร้อนของพวกตนลงได้
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่สหกรณ์ออมทรัพย์จังหวัดเลย ถึงเรื่องที่ พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 แจ้งกลุ่มตำรวจผู้เสียหายช่วงกลางเดือน ส.ค.ที่ผ่านมาว่า ได้สั่งให้ทางสหกรณ์ ส่งเรื่องให้นิติกรของสหกรณ์ออมทรัพย์จังหวัดเลย ตรวจสอบกรณีเจ้าหน้าที่สหกรณ์ฯ สั่งจ่ายเช็คเงินสดตามยอดเงินกู้ของตำรวจ แทนการสั่งจ่ายเข้าบัญชีธนาคารเจ้าหนี้ เป็นเรื่องผิดระเบียบ จะต้องมีความรับผิดชอบอย่างไรหรือไม่นั้น ทางเจ้าหน้าที่สหกรณ์ออมทรัพย์จังหวัดเลยกล่าวว่า เรื่องยังมา ไม่ถึงตน หากต้องการทราบรายละเอียด ที่แน่ชัดให้ติดต่อมาในวันราชการ