'อากู๋' เจ้าของม่านรูด ที่เพชรบูรณ์ โอดลูกค้าหาย หลังหนุ่มแบงก์กุข่าวโดนแอบถ่ายคลิปไปแพร่ในโซเชียล บอกอยากขายกิจการ 70 ล้าน แล้วย้ายไปอยู่ที่อื่น...
วันที่ 15 สิงหาคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นายณรงค์ฤทธิ์ หรือ ต่อ รีกวย อายุ 34 ปี ชาว อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ เพื่อให้เอาผิดเจ้าของทวิตเตอร์ที่นำคลิปภาพการเข้าใช้บริการโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง ของจังหวัดเพชรบูรณ์ กับแฟนสาวไปโพสต์ และให้ตรวจสอบโรงแรมม่านรูดที่เข้าใช้บริการว่า ติดตั้งกล้องแอบถ่ายตนเองไว้หรือไม่
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ร่วมกับ พ.ต.ท.สิทธินันท์ สิทธิกำจร รองผกก.4 บก.ปคม. ร่วมสอบปากคำ จนนายต่อให้การรับสารภาพกุเรื่อง คดีพลิก กลายเป็นผู้ต้องหา ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีหนัก 3 ข้อหา คือ 1.ข้อหาแจ้งความอันเป็นเท็จต่อพนักงานตาม ป.อาญามาตรา 137 2.รู้ว่ามิได้มีความผิดอาญาเกิดขึ้นแจ้งข้อความต่อเจ้าพนักงานสอบสวน หรือพนักงานผู้มีอำนาจว่าได้มีการกระทำความผิด 3.พยายามกรรโชกทรัพย์
ความคืบหน้าล่าสุด ภรรยาของนายต่อ ได้เข้ายื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวนหนึ่งหมื่นบาท ประกันตัวนายต่อกลับบ้านไปตั้งแต่ช่วงกลางดึกวานนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า ผู้ต้องหาอยู่ในอาการเครียดหนัก และแท้จริงแล้วนายต่อเป็นเพียงลูกจ้างชั่วคราวของธนาคาร มีตำแหน่งเป็นพนักงานขับรถยนต์ ส่วนแฟนสาวนั้นเป็นนักศึกษาฝึกงานอยู่ที่เดียวกัน
ด้าน นายเลิศพงษ์ พงษ์วราพัฒน์ หรือ อากู๋ วัย 75 ปี เจ้าของโรงแรมม่านรูดที่ถูกพาดพิงกล่าวว่า ไม่เข้าใจว่าทำไมเงินประกันตัวผู้ต้องหาเพียงแค่หมื่นเดียว แบบนี้ผู้ต้องหาจะหลบหนีหรือไม่ ขณะนี้ตนมีความกังวลเป็นห่วงถึงความปลอดภัยของบุตรสาวมาก อยากได้ภาพถ่ายนายต่อ เพราะจะได้คอยระมัดวังไม่ให้เข้ามาที่โรงแรมตนได้อีก ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่าต้องติดต่อเข้าไปที่โรงพักเอง
...
อากู๋ กล่าวต่อว่า ตอนนี้เครียดมาก ไม่มีลูกค้าเข้าใช้บริการเลย ด้านคดีความนั้น อยู่ระหว่างรอเพื่อนที่เป็นทนายเดินทางมาจากกรุงเทพฯ เพื่อมาดูแลฟ้องคดีนายต่อ ทั้งทางแพ่งและอาญา ตอนนี้อยากขายกิจการมูลค่า 70 ล้านบาท และย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามเพื่อนร่วมงาน และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ต่างก็ไม่มีใครยอมให้ความเห็น พูดเพียงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนตัว แค่นี้ก็ทำให้ธนาคารเสียหายและเสียชื่อเสียงอยู่แล้ว คนที่ทำผิดนั้นเป็นเพียงลูกจ้างชั่วคราว ตำแหน่งพนักงานขับรถ ไม่ได้เป็นพนักงานสินเชื่อของธนาคารแต่อย่างใด.