แขวงทางหลวงเชียงรายที่ 2 เตรียมนำเครื่องจักรหนักเข้าปรับพื้นที่ ซ่อมถนนทางขึ้นภูชี้ฟ้า หลังเกิดดินสไลด์ทำให้ถนนหายไป 1 ช่อง นอภ.เทิงลั่นไม่กระทบฤดูกาลท่องเที่ยว...

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ส.ค.61 นายทวีศักดิ์ รุจิจรรยาวัฒน์ ผอ.แขวงทางหลวงเชียงรายที่ 2 นำเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงพร้อมเครื่องจักรเข้าทำการปรับพื้นที่ก่อนซ่อมแซมถนนให้สามารถกลับมาใช้งานได้ตามเดิม 

นายทวีศักดิ์ เผยว่า จากเดิมที่เมื่อวานได้คุยกันไว้ว่า จะนำสะพานเบลีย์จากศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 1 (พิจิตร) มาทำการทอดผ่านบริเวณที่เกิดดินถล่ม แต่เมื่อมาพิจารณาดูแล้วพบว่า ไม่มีการทรุดตัวของถนนเพิ่มจากเมื่อวาน จึงเห็นควรเปลี่ยนแผน โดยการนำรถแบ็กโฮเข้าเคลียร์พื้นที่ จากนั้นจะนำไม้ยูคาลิปตัสมาปักเป็นหลักถี่ๆ แล้วนำหินก้อนใหญ่มาถม โดยจะทำเป็นชั้นๆ จำนวน 3 ชั้น และจะวางท่อระบายน้ำที่หุ้มด้วยแผ่นใยสังเคราะห์ เส้นผ่าศูนย์กลาง 6 นิ้ว มาวางเป็นทางระบายน้ำใต้ดินจากกึ่งกลางถนนลงเฉียงไปตามทางลาดเอียงของภูเขา โดยจะวางท่อเป็นระยะทางประมาณ 50-60 เมตร ก่อนจะนำดินมาถมทับด้านบนถนนและซ่อมแซมให้ใกล้เคียงสภาพเดิมมากที่สุด 

...

"เราต้องมีการประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา เพื่อปรับเปลี่ยนแผนช่วยเหลือให้ตรงกันกับเหตุการณ์ จากที่เคยวางแผนการใช้สะพานเบลีย์ แต่ดูจากความเหมาะสมแล้ว รถบรรทุกใหญ่จะไม่สามารถสัญจรข้ามไปมาได้ และค่าใช้จ่ายสูงมาก ประมาณเมตรละ 10,000 บาท ต้องใช้งบสูงถึง 4-5 แสนบาทในการดำเนินการ และฤดูกาลท่องเที่ยวถ้ามีสะพานตั้งอยู่กลางหมู่บ้าน นักท่องเที่ยวอาจจะไม่มั่นใจในความปลอดภัย ส่วนการถมดินวางท่อใช้งบประมาณ 5 แสนบาทเท่ากัน แต่มีความคุ้มค่าคงทนมากกว่า แต่ในวันนี้ก็ยังมีเจ้าหน้าที่จากศูนย์ฯ สะพานที่ 1 คือ นายไพบูลย์ อินทร์สอน ช่างศูนย์สะพานที่ 1 มาดูพื้นที่เพื่อประเมินสถานการณ์ หากมีการทรุดตัวของถนนเพิ่มจนต้องใช้สะพานเบลีย์ก็มีความพร้อมนำมาติดตั้งได้ทันทีเช่นกัน แต่ดูจากเหตุการณ์แล้วคงไม่ต้องใช้สะพานแล้ว ส่วนการดำเนินการถมดิน ปรับพื้นที่ น่าจะใช้เวลาดำเนินประมาณงานประมาณ 5 วัน ในช่วงนี้หากจำเป็นต้องผ่านทางก็สามารถใช้ทางเบี่ยงขึ้นไปด้านบนหมู่บ้าน ก็สามารถใช้สัญจรได้เช่นกัน

นายนิวัฒน์ งามธุระ นอภ.เทิง เผยว่า พื้นที่ตำบลตับเต่ามีพื้นที่เสี่ยงอยู่ 3 หมู่บ้าน คือ บ้านพญาเลาอู ม.19 บ้านร่มฟ้าทอง ม.23 และบ้านร่มฟ้าไทย ม.24 ซึ่งเป็นจุดที่เกิดเหตุดินถล่มในครั้งนี้ ตอนนี้ได้สั่งการให้หมู่บ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้งหมดเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง และให้แจ้งกับทางอำเภอทันทีที่เกิดเหตุ โดยจะให้อปท.ในพื้นที่เข้าช่วยเหลือเบื้องต้น ในส่วนของบ้านร่มฟ้าไทยนี้คาดว่าจะใช้เวลาปรับพื้นที่ประมาณ 5 วัน และไม่ส่งผลกระทบกับฤดูกาลท่องเที่ยว สามารถมาเที่ยวได้เหมือนเดิม

ด้าน นายลักษณ์ ภาระจำ อายุ 53 ปี เจ้าของร้านลักษณ์โภชนาที่ได้ทรุดตัวลงไปเป็นร้านแรก กล่าวว่า ร้านของตนเพิ่งปรับปรุงใหม่และเปิดมาได้ไม่นาน ใช้งบประมาณไปกว่า 6 แสนบาท ตอนที่เห็นดินทรุดไปต่อหน้าตนก็แทบเข่าทรุด ทำอะไรไม่ถูก แต่ก็ยินดีที่มีหลายหน่วยงานเข้ามาหยิบยื่นความช่วยเหลือ เรื่องค่าชดเชยก็คงต้องแล้วแต่ที่ทางการจะเห็นเหมาะสม แต่ตนและร้านค้าอีก 3 ร้านคือ ร้านมีมีโภชนา ร้านโรตี 111 และร้านจิรนันท์ซึ่งเป็นร้านขายของชำ ที่เดือดร้อนจากปัญหาดินถล่มในครั้งนี้ อยากให้ทางการช่วยเหลือหาที่ตั้งร้านให้ใหม่ เพราะที่ตั้งเก่าไม่แข็งแรง หวั่นเกิดเหตุซ้ำรอยอีก.