ผวจ.เชียงราย ประกาศห้ามเข้าเขตพื้นที่อันตราย และห้ามรถสัญจรโดยเด็ดขาด หลังเกิดดินสไลด์ที่ บ้านร่มฟ้าไทย ทางก่อนขึ้นภูชี้ฟ้า ทางสัญจรเกือบถูกตัดขาด แขวงการทางเร่งซ่อม คาดใช้เวลา 3 วัน...

เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2561 นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผวจ.เชียงราย เดินทางไปตรวจพื้นที่ บ้านร่มฟ้าไทย ม.24 ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นก่อนขึ้นภูชี้ฟ้า ติดกับศูนย์บริการนักท่องเที่ยวภูชี้ฟ้า ห่างจากทางขึ้นภูชี้ฟ้า 1 กม. โดยมีบ้านที่อยู่ริมถนนทรุดตัวลงไป 4 หลัง และบ้านที่มีความเสี่ยง 2 หลัง ที่อยู่ซ้าย-ขวาบ้านที่ทรุดตัวลง รวมถึงอาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งมีรอยร้าวและทรุดตัวเล็กน้อย ด้านล่าง ส่วนถนนทรุดตัวลงไปด้วย 1 ช่องจราจรกินพื้นที่ครึ่งถนน ทางสัญจรเกือบถูกตัดขาด แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต 

ผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวว่า วันนี้จึงใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ พ.ร.บ. ปภ. ประกาศห้ามเข้าเขตพื้นที่เขตอันตราย และห้ามรถสัญจรโดยเด็ดขาด อาจเดินผ่านชิดอีกด้านได้ โดยจะจัดเวรยามเฝ้าระวังและห้ามเข้าพื้นที่ ด้านการซ่อมแซมเส้นทางสัญจร แขวงการทางเชียงรายที่ 2 กรมทางหลวง จะติดตั้งสะพานเบลีย์ความยาว 40 เมตร เพื่อใช้สัญจรชั่วคราว ในที่ประสบเหตุก่อน ซึ่งคาดว่าจะเสร็จเรียบร้อยภายใน 3 วัน โดยจะเริ่มดำเนินการในวันพรุ่งนี้ ในสภาพของดินที่ทรุดตัวจะมีการป้องกันไม่ให้ดินสไลด์อีก ส่วนอาคารที่เสียหายใกล้เคียงจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาวิเคราะห์ ว่าจะดำเนินการอย่างไร รวมถึงอาคารศูนย์ท่องเที่ยวฯ ด้วย 

...

“ขณะนี้เราให้ความสำคัญเรื่องการแจ้งเตือนมากที่สุด ตอนนี้ให้ท้องถิ่น เจ้าหน้าที่อุทยาน และป่าไม้ในพื้นที่ช่วยเก็บปริมาณน้ำฝน เพื่อให้รู้เมื่อเกิดปริมาณน้ำฝนสะสมมาก จะได้ประเมินสถานการณ์และเตือนภัยได้ทันเวลา” นายประจญ กล่าว 

ด้าน นายณรงค์ชัย จรูญสกุลวงศ์ เจ้าของรีสอร์ตบนภูชี้ฟ้า เผยว่า สาเหตุของการทรุดตัวของร้านค้าและถนน เนื่องจากถนนตรงนี้ถูกสร้างโดยการตัดเขาและถมลงไปเป็นดินใหม่ เป็นไหล่ทาง และมีการสร้างร้านอาหาร ร้านค้าบริการนักท่องเที่ยว ในช่วงนี้หน้าฝนมีการอุ้มน้ำของดิน และมีน้ำไหลด้านล่าง ทำให้มีการกัดเซาะ ไหล่ถนนและถนนจึงทรุดตัวยาว 50 เมตร ทำให้บ้านทั้ง 4 หลังทรุดตัวลงด้วย

ขณะที่ นายทวีศักดิ์ รุจิจรรยาวัฒน์ ผอ.แขวงทางหลวงเชียงราย ที่ 2 กล่าวว่า การป้องกันไม่ให้ดินสไลด์ ให้ดินหยุดนิ่ง จะปักไม้เสากลมให้แน่น และมีเฟรมใยหินที่น้ำผ่านได้ แต่ป้องกันเม็ดดินไม่ให้ไหล พร้อมทั้งใช้กระสอบทรายและหินก้อนใหญ่ป้องกัน ส่วนถนน จะวางสะพานเบลีย์เพื่อใช้สัญจรโดยจะเริ่มติดตั้งวันพรุ่งนี้ (1 ส.ค.) คาดว่าจะสามารถใช้ได้ภายใน 3 วัน โดยอาจใช้ได้ไปจนถึงหน้าหนาวฤดูการท่องเที่ยว เพื่อนักท่องเที่ยวหรือชาวบ้านใช้ได้อย่างปลอดภัย

ผอ.แขวงทางหลวงเชียงราย ที่ 2 กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นจะมีการสร้างถนนโดยจะมีการเสริมบล็อกเป็นชั้นให้แข็งแรงมั่นคง เบื้องต้น คาดว่าจะเป็นช่วงเดือน ก.พ. 2562 สำหรับผู้ประสบภัยมีทั้งหมด 11 คน จำนวน 6 ครอบครัว โดย อบต.ตับเต่า และกิ่งกาชาดเชียงราย ได้ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นไปแล้ว และจะมีการหารือบรรเทาความเดือดร้อนต่อไป 

ส่วน นายลักษณ์ ภาระจันทร์ อายุ 53 ปี เจ้าของร้านอาหารที่ทรุดตัวเป็นหลังแรก กล่าวว่า อยู่ตรงนี้มา 28 ปี แต่เพิ่งปรับปรุงร้าน และเปิดร้านใหม่ได้เพียง 4 เดือน โดยเมื่อวาน (30 ก.ค.) ตอนเย็นพื้นที่บ้านเกิดทรุดตัวเล็กน้อยระหว่างพื้นกับดินด้านล่าง จึงไม่มั่นใจ อีกทั้งฝนตกต่อเนื่องจึงไปนอนบ้านญาติ จนกระทั่งเช้านี้ ประมาณ 06.00 น. ได้ไปเปิดร้าน ปรากฏว่า เกิดเสียงดังลั่น มีการแยกตัวของอาคาร จีงออกมายืนบนถนนอีกด้าน และเห็นการทลายของดินไปต่อหน้าต่อตา และได้บันทึกภาพวิดีโอไว้ ซึ่งตนตกใจมากที่ร้านที่เพิ่งสร้างมาเพียง 4 เดือน พังไปต่อหน้าต่อตา ของทั้งหมดในร้านไหลลงไปกับร้านทั้งหมด.