ผู้สื่อข่าวตามรอยโรงเรียนที่ทำงานเก่าครูวิภา ที่เป็นต้นเรื่อง อดีตลูกศิษย์ ที่ติดหนี้ กยศ.เผยแทบทุกคนเป็นคน ต.สักงาม ปัจจุบันแยกย้ายไปทำงานต่างถิ่นหมดแล้ว...
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 25 ก.ค.61 จากกรณี ที่เป็นเรื่องน่าเศร้าที่อาจารย์โรงเรียนมัธยมศึกษาในจังหวัดกำแพงเพชร เมื่อกว่า 20 ปี ครูวิภา บานเย็น ปัจจุบันอายุ 47 ปี ได้อาสาที่เป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ กยศ.ให้กับนักเรียนจำนวนกว่า 60 คน ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สืบทราบว่า โรงเรียน อยู่ในพื้นที่ อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร ปัจจุบันมีอาคารเรียน 3 หลัง โรงอาหาร 1 หลัง ศูนย์ฝึกอาชีพ 1 หลัง มีข้าราชการครู 27 คน ตั้งแต่มัธยมศึกษาตอนต้น ถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย มีนักเรียนชายและหญิงราวๆ 400 คน
ขณะที่นักเรียนต่างเข้าห้องเรียน และคณะครูกำลังคุยกันถึงเรื่องข่าวที่ทางไทยรัฐนำเสนอไป ต่างก็นึกสงสารครูวิภา แต่ครูหลายคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามาไม่ทัน เพราะขณะที่เป็นโรงเรียนขยายโอกาส แยกมาจากโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เมืองกำแพงเพชร ในช่วงปี 2538 เป็นอาคารเรียนชั่วคราว จนกระทั่งปี 2539 ทางกระทรวงศึกษาธิการ ประกาศจัดตั้งเป็นโรงเรียน โดยมีนักเรียนขณะนั้น 394 คน มีครู 10 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ครูวิภา เป็นครูแนะแนว สอนนักเรียนวันเดียวหลายๆ ห้อง
...
นางอารีย์ (นามสมมุติ) อายุ 47 ปี อาจารย์สอนโรงเรียนดังกล่าว กล่าวว่า สำหรับหลักเกณฑ์ในสมัยก่อนใช้ข้าราชการค้ำประกัน โดยนักเรียนก็มักจะใช้ครูผู้สอนค้ำประกัน ซึ่งเป็นข้าราชการ สำหรับการกู้ยืมเงินระเบียบเก่า การกู้ยืมแต่ละภาคการศึกษา โดยผู้กู้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1.กู้ยืมเพื่อการศึกษาต่อกองทุน โดย การลงทะเบียนเรียน จำนวนค่าเล่าเรียน 2.กู้เพื่อค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษาและ 3 กู้เพื่อค่าครองชีพ ทั้งนี้ต้องได้รับการรับรองจากสถานศึกษานั้นๆ
กองทุนจะจ่ายให้กับผู้กู้โดยตรง ทั้งที่สถานศึกษาที่กำลังศึกษาและค่าครองชีพในจ่ายโอนเข้าบัญชีผู้กู้โดยตรง ไม่ผ่านผู้ค้ำประกัน ส่วนตัวตั้งแต่มาสอนที่โรงเรียนนี้ไม่ทันครูวิภา เพราะเธอได้ย้ายโรงเรียนสลับกันพอดี แต่ทั้งนี้ทราบว่า ครูวิภา เป็นครูที่รักเด็กนักเรียน และเด็กนักเรียนที่ค้ำประกันให้ก็เป็นเด็กชาวไทย ที่อยู่ในตำบลสักงาม ซึ่งได้ข่าวว่าบางคนก็ไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด ส่วนบ้านเด็กนักเรียนส่วนตัวไม่รู้จัก
นายแจ็ค (ขอสงวนนาม) อายุ 33 ปี นักเรียนร่วมรุ่นกลุ่มที่ติดหนี้ กยศ.มีบ้านอยู่ที่ ต.วังทอง อ.เมืองกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร กล่าวว่า สำหรับตนเองตอนสมัยเรียนครูวิภา ก็เป็นครูผู้สอน ชั้น ม.4 ขณะเป็นโรงเรียนที่แยกมาจากโรงเรียนแห่งหนึ่ง ต.วังทอง อ.เมืองกำแพงเพชร ยังไม่อาคารเรียน เรียนห้องเรียนกันว่าห้องเรียนเล้าไก่ ก็เรียนจนกระทั่งจบ ม.ปลาย ตอนเรียนตนก็กู้เงินเรียนแต่ใช้พ่อแม่ค้ำให้ ก็ส่งคืนครบแล้ว เมื่อจบการศึกษา จึงแยกย้ายกัน และไม่ได้กลับไปที่โรงเรียนอีกเลย นักเรียนที่กู้นั้นรู้จักกันดี และเป็นรุ่นพี่ที่เรียนด้วยกัน เป็นคนในตำบลสักงาม อ.คลองลาน แต่ข่าวว่าหลายปีที่ผ่านมาทุกคนต่างออกไปทำงานอยู่ต่างจังหวัดกัน ไม่รู้อยู่ที่ไหนกันบ้าง เรื่องนี้ก็ได้ติดตามข่าวอยู่ตลอด.